“ลุงขับแท็กซี่”เครียดโควิดรอบ 3 หาเงินไม่ได้ดิ่งเจ้าพระยาดับ

31 พ.ค. 2564 | 09:18 น.

“ลุงขับแท็กซี่”เครียดโควิดรอบ 3 หาเงินไม่ได้ดิ่งเจ้าพระยาดับ ภริยาเผยเพราะสถานการณ์โควิด สามีชอบบ่นว่าจะไปกระโดดน้ำตาย ไม่คิดว่าจะทำจริง

วันนี้(31 พ.ค.64) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.ท.จิตติวัฒน์ ธิจริยา รอง สว.สอบสวน สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง เดินทางเข้าตรวจสอบ หลังจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีพบศพลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้การไฟฟ้าบางกรวยฝ่ายผลิตบางกรวย  อ.บางกรวย จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์รุดเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างของชายสวมเสื้อสีเหลืองแขนสั้น กางเกงขาสั้นสีดำ ลอยน้ำติดกับกอผักตบชวาอยู่ใกล้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตบางกรวย จึงได้ช่วยกันนำร่างขึ้นบริเวณท่าน้ำวัดลุ่มคงคาราม  

จากการตรวจสอบทราบชื่อคือ นายนามเดช เสงี่ยมพันธุ์ อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นคนขับแท็กซี่ โตโยต้า สีส้ม ทะเบียน ทห 4687 กทม ที่จอดรถไว้กลางสะพานพระราม 7 เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของคืนวันที่ 30 พ.ค.64 ที่ผ่านมา 

โดยที่เกิดเหตุพบรองเท้าแตะ 1 คู่ถอดวางไว้บริเวณราวสะพาน แต่ไม่พบตัวคนขับแท็กซี่ สงสัยน่าจะกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา

 

นางพนิดา เสงี่ยมพันธุ์ อายุ 65 ปีภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สามีมีอาชีพขับแท็กซี่ โดยระยะหลังหาเงินไม่ค่อยได้ เพราะสถานการณ์ระบาดของโควิด ชอบบ่นว่าจะไปกระโดดน้ำตาย ตนก็ไม่คิดว่าจะทำจริง ซึ่งก็พยายามพูดปลอบใจโดยมาตลอด กระทั่งคืนวันที่ทราบว่ามาก่อเหตุนั้น ก่อนออกจากบ้านสามีพูดย้ำกับตนว่า ไปจริงแล้วนะคราวนี้ ก็คิดว่าพูดเล่นเหมือนเช่นทุกครั้ง 

นางพนิดา ยังกล่าวว่า โควิดรอบ 1 และรอบ 2 ยังพอหาเงินได้บ้าง แต่รอบที่ 3 นี้หาเงินไม่ได้เลย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ นายนามเดช สามี ต้องตัดสินใจกระโดดสะพานเข้าใจว่าเครียดเกี่ยวกับรายได้ที่ขับรถแท็กซี่และหาเงินยาก

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำภรรยาของผู้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุนั้นสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเครียดกับปัญหาเกี่ยวกับรายได้ที่ไม่พอใช้ในช่วงโควิดระบาด ทำให้เกิดคิดสั้น ก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิต เพื่อชันสูตรต่อไป