จับตา“หมอนทอง”ส่งออกขายจีนราคาพุ่ง 290 บาท / กก. 

26 พ.ค. 2564 | 10:40 น.

“ทุเรียนไทย”บูมสุดๆ ในจีน คาดในปีนี้นำเข้ามากกว่า 650,000 ตัน จะกลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลกใน 5 ปีข้างหน้า จับตา “หมอนทอง”ราคาพุ่ง 290บาท / กก. 

วันนี้(26 พ.ค.64) พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดทุเรียนในประเทศจีน และโอกาสของประเทศไทยที่จะกลายเป็นผู้ผลิตทุเรียนรายใหญ่ที่สุดของโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. ผลผลิตทุเรียน ในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมา อินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตทุเรียนรายใหญ่ที่สุดของโลก รองลงมาคือ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ แต่ปริมาณการส่งออกทุเรียนจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ มีจำนวนน้อยลงเนื่องจากข้อจำกัดด้าน คุณภาพและมาตรฐานการส่งออก  

ดังนั้น หากมองย้อนกลับไปตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๖๒-๒๕๖๓ พบว่า ปริมาณการนำเข้าทุเรียนไทยในตลาดจีนในแต่ละปี มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีจำนวนมากกว่า ๕๐๐,๐๐๐ ตัน ในปี พ.ศ.๒๕๖๒ และมากกว่า ๖๐๐,๐๐๐ ตัน ในปี พ.ศ.๒๕๖๓ 
ทั้งนี้ คาดว่าในปีนี้จะมีปริมาณมากกว่า ๖๕๐,๐๐๐ ตัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของตลาดผู้บริโภคในจีน และโอกาสของทุเรียนไทยในตลาดจีน  

                                       จับตา“หมอนทอง”ส่งออกขายจีนราคาพุ่ง 290 บาท / กก. 

๒. ในรายงานข่าวของจีนที่ได้อ้างถึงศูนย์วิจัยการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยชี้ว่า ประเทศไทยจะแซงหน้าอินโดนีเซียใน ๕ ปีข้างหน้า และขึ้นแท่นผู้ผลิตทุเรียนรายใหญ่ของโลกภายในปี พ.ศ.๒๕๖๘ รวมทั้งผลผลิตจะเกิน ๒ ล้านตัน  โดยราคาทุเรียนหมอนทองที่ส่งออกอาจสูงขึ้นถึง ๒๙๐ บาท / กก. 

ในขณะที่มีรายงานการวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยงของตลาดทุเรียนไทยในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.๒๕๕๔-๒๕๖๓) และในอนาคตอีก ๕ ปีข้างหน้า (พ.ศ.๒๕๖๔-๒๕๖๘) เมื่อเทียบกับแนวโน้มการพัฒนาจะพบว่า การส่งออกทุเรียนของโลกในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นจาก ๕๒๑,๐๒๘ ตันในปี พ.ศ.๒๕๕๔ เป็น ๗๗๒,๘๖๐ ตันในปี พ.ศ.๒๕๖๓ เพิ่มขึ้น ๔๘.๓% และในอีก ๕ ปีข้างหน้าปริมาณการส่งออกทุเรียนของโลกจะเพิ่มขึ้น ๑๓๔.๕% แตะ ๑.๘๑๒ ล้านตัน โดยที่ประเทศไทยจะครองอันดับหนึ่ง 

๓. สำหรับราคาทุเรียนใน ๕ ปีข้างหน้า (พ.ศ.๒๕๖๔-๒๕๖๘) จะขึ้นอยู่กับ ๓ สถานการณ์ คือ 

๓.๑ หากจีนนำเข้าทุเรียนหมอนทองน้อยกว่า ๑๐% ราคาขายส่งของทุเรียนหมอนทองใน Guangzhou Jiangnan Fruit Exchange จะอยู่ที่ ๑๗๗ บาท / กก. ภายในปี พ.ศ.๒๕๖๘ และราคาขายส่งเฉลี่ยของทุเรียนหมอนทองในปี พ.ศ.๒๕๖๔-๒๕๖๘ จะอยู่ที่ ประมาณ ๑๗๔ บาท / กก. 

๓.๒ หากจีนนำเข้าทุเรียนจากไทยเพิ่มขึ้น ๑๐-๑๕% ราคาขายส่งของทุเรียนหมอนทองใน Guangzhou Jiangnan Fruit Exchange จะอยู่ที่ประมาณ ๒๗๙ บาท / กก. ภายในปี พ.ศ.๒๕๖๘ และราคาขายส่งเฉลี่ยของทุเรียนหมอนทองในปี พ.ศ.๒๕๖๔-๒๕๖๘ จะอยู่ที่ประมาณ ๒๔๓ บาท / กก. กก. 

๓.๓ หากจีนนำเข้าทุเรียนไทยมากกว่า ๑๕% ราคาขายส่งของทุเรียนหมอนทองใน Guangzhou Jiangnan Fruit Exchange จะอยู่ที่ประมาณ ๓๗๙ บาท / กก. ภายในปี พ.ศ.๒๕๖๘ และราคาขายส่งเฉลี่ยของทุเรียนหมอนทองในปี พ.ศ.๒๕๖๔-๒๕๖๘ จะอยู่ที่ประมาณ ๒๙๐ บาท / กก. 

                                 จับตา“หมอนทอง”ส่งออกขายจีนราคาพุ่ง 290 บาท / กก. 

บทสรุป นอกจากการที่ประเทศไทยจะกลายเป็นผู้ผลิตทุเรียนรายใหญ่ที่สุดของโลกในอีก ๕ ปีข้างหน้า และมีโอกาสอย่างมากในตลาดจีนแล้ว ยังมีการวิเคราะห์ว่า จะมีโอกาสเพิ่มมูลค่าจากการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทุเรียนได้มากขึ้น อันจะทำให้ทุเรียนพื้นบ้านและทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองของไทยได้รับความนิยมมากขึ้น 

รวมทั้งคุณภาพทุเรียนที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน GMP และการรับรองมาตรฐาน Good Agricultural Practice (GAP) จะเป็นโอกาสในการพัฒนาตลาดใหม่ๆ ของทุเรียนไทย อาทิ ในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และอินเดีย เป็นต้น    
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :