ยอดจองหุ้นเพิ่มทุน 'ยูซิตี้' ดีเกินคาด

26 พ.ค. 2564 | 04:21 น.

U เผยยอดจองหุ้นเพิ่มทุนได้รับการตอบรับดีกว่าที่คาด สะท้อนเชื่อมั่นบริษัทสามารถผ่านพ้นวิกฤตโควิดได้ พร้อมนำเงินไปชำระหนี้และลงทุนโครงการที่มีศักยภาพ เพิ่มความสามารถทำกำไร

นางสาวสรญา เสฐียรโกเศศ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินบริษัท ยูซิตี้ จำกัด (มหาชน) (U) เปิดเผยว่า การเพิ่มทุนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากจำนวนการจองซื้อหุ้นทั้งหมด 22,500 ล้านหุ้น ที่เปิดให้ดำเนินการในระหว่างวันที่ 12 ถึงวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ผู้ถือหุ้นได้ให้การสนับสนุนเพิ่มทุนเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 15,700 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถผ่านพ้นวิกฤติของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไปได้ 

สำหรับธุรกิจหลักของยูซิตี้ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและการบริการ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงแรมทั้งหมด 51 แห่ง รวม 8,978 ห้อง ซึ่งพร้อมที่จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว อีกทั้งการที่ประเทศต่างๆ เริ่มทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยว โดยมีนักท่องเที่ยวที่ใจจดใจจ่อที่จะกลับมาเดินทาง หลังจากที่มีการจำกัดการเดินทางนานกว่าหนึ่งปี ทั้งนี้ เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนจะนำไปใช้ชำระหนี้และลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรต่อไปในอนาคต ขณะที่ เงินจากการเพิ่มทุนนี้เป็นส่วนที่เพิ่มจากเงินที่บริษัทจะได้รับจากการขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักมูลค่ากว่า 4,400 ล้านบาท คาดว่าจะทำให้อัตราหนี้สินต่อทุนลดลงเหลือเพียงประมาณ 0.1 เท่า

“ฐานะทางการเงินของยูซิตี้ในขณะนี้ มีความแข็งแกร่งอย่างมากหลังจากการเพิ่มทุน และการขายโรงแรมภายใต้สัญญาเช่าที่สร้างผลตอบแทนต่ำ รวมถึงทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อื่นๆ โดยโรงแรมที่เหลืออยู่ล้วนเป็นโรงแรมที่มีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับมาเดินทางอีกครั้ง สำหรับความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนของสหภาพยุโรป คาดว่าจะเกิน 50% ของประชากรภายในเดือนมิถุนายนและจะมีภูมิคุ้มกันอย่างทั่วถึงภายในฤดูร้อนนี้ ซึ่งขณะนี้ประเทศต่างๆ อยู่ระหว่างการผ่อนปรนข้อจำกัดในการเดินทาง”

ขณะเดียวกัน หุ้น U ขณะนี้ยัง Underperform โดยมีราคาตลาดของหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Price to Book Value) อยู่ 0.38 เท่า ซึ่งต่ำสุดเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ ยูซิตี้ มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ กลุ่มบริษัทบีทีเอส ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ “โครงการสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก”หนึ่งในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกของประเทศไทย