ขอจ่าย "เยียวยาโควิด" เป็นเงินสด เปิดผลโพล เสียงชาวบ้านถึงรัฐบาล

18 พ.ค. 2564 | 10:23 น.

ที่ประชุมครม. รับทราบผลโพล พบชาวบ้านต้องการให้จ่ายเงินเยียวยาโควิด "เป็นเงินสด" ระบุ ส่วนใหญ่พอใจมาตรการในระดับมาก-มากที่สุด

วันที่ 18 พ.ค. 64 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง "มาตรการเยียวยาโควิด" หรือ มาตรการช่วยเหลือเยียวยาของภาครัฐว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของภาครัฐจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)ปี 2564 ได้แก่ 

  • โครงการเราเที่ยวด้วยกัน 
  • โครงการคนละครึ่ง 
  • โครงการเราชนะ 
  • โครงการม.33 เรารักกัน 
  • การดำเนินการเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของภาครัฐ 

โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้สอบถามประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ จำนวน 9,000 คน ระหว่างวันที่ 8-15 มีนาคม 2564 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

รองโฆษกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ผลการสำรวจพบว่า 

  • ประชาชน 99.7% รับทราบมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของภาครัฐ  
  • 81.2% ประชาชนมีความพึงพอใจโดยรวมต่อมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของภาครัฐในระดับมากถึงมากที่สุด 
  • 15.9%  พอใจปานกลาง
  • 2.3% พอใจน้อยถึงน้อยที่สุด
  • 0.6% ไม่พึงพอใจ

เมื่อแยกเป็นรายโครงการเยียวยาโควิดพบว่า 

  • 59.9% ประชาชนมีความพึงพอใจโครงการเราเที่ยวด้วยกันระดับมากถึงมากที่สุด
  • 82.7% พึงพอใจระดับมากถึงมากที่สุด โครงการคนละครึ่ง
  • 67.8% โครงการเราชนะ
  • 67.8% ม.33 เรารักกัน

และยังมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำหรับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน 3 อันดับแรกดังนี้คือ 

  1. ควรให้สิทธิแก่ทุกคนโดยไม่ต้องลงทะเบียน
  2. ควรขยายระยะเวลาใช้บริการ 
  3. ควรให้เป็นเงินสดเพื่อนำไปใช้บริการ 

ส่วนโครงการคนละครึ่ง เราชนะ และม.33 เรารักกัน ประชาชนมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมดังนี้คือ 

  1. ควรให้ทุกคนได้รับสิทธิเยียวยา
  2. ควรเพิ่มวงเงิน 
  3. ควรให้เป็นเงินสด  

สำหรับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของภาครัฐที่ประชาชนต้องการให้ดำเนินการต่อไปมากที่สุดคือ 

  1. โครงการเราชนะ 62.9%  
  2. โครงการคนละครึ่ง 26.3%  
  3. โครงการม.33 เรารักกัน 6.1% 
  4. โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ1.7% 
  5. โครงการเราเที่ยวด้วยกัน 0.6% 

ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของภาครัฐพบว่า 

  • 60.7% ประชาชน มีความพร้อม  
  • 39.3% ไม่พร้อม ให้เหตุผลว่า ไม่มั่นใจในความปลอดภัย กลัวฉีดแล้วมีอาการแพ้ และต้องการดูผลที่เกิดขึ้นจากการฉีดของคนอื่นก่อน 

อย่างไรก็ตามประชาชนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการดำเนินการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของภาครัฐในระดับมากถึงมากที่สุด 66.3% 

ทั้งนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายดังนี้คือ 

  1. ควรเพิ่มมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง เช่น ควรเพิ่มวงเงินมากกว่าประชาชนกลุ่มอื่น
  2. ควรให้ทุกคนได้รับสิทธิในการเยียวยา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบกับประชาชนทุกคนและทุกระดับ 
  3. ขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือไม่ควรยุ่งยากและซับซ้อน เช่น การให้เป็นเงินสดโดยไม่ต้องลงทะเบียน 
  4. ควรส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุมทุกพื้นที่ในราคาย่อมเยา 
  5. สร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น ลดราคาสินค้าสำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าและบริการออนไลน์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :