ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 เคลื่อนไหวในแดนลบ รับแรงขายตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค หลังดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลงต่อ 681 จุด จากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับข้ึนอัตราดอกเบี้ยขึ้นและลดการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (คิวอี) หลังตัวเลข CPI สหรัฐเดือนเมษายนพุ่งสูงเกินคาด บ่งบอกถึงภาวะเงินเฟ้อที่เร่งตัว รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง กระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังขายต่อเนื่อง และตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังทรงตัวระดับสูง และเสียชีวิตต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,556.81 จุด ลดลง 15.04 จุด หรือ 0.96% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 52,643.54 ล้านบาทขณะที่ ดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,561.80 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,549.06 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
CPALL ปิดที่ 58.50 บาท ลดลง 2.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,563.89 ล้านบาท
TIDLOR ปิดที่ 41.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,407.79 ล้านบาท
STA ปิดที่ 47.00 บาท ลดลง 1.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,368.41 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 120.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,964.03 ล้านบาท
STGT ปิดที่ 45.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,725.17 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่กดดัชนีมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
DELTA ปิดที่ 492.00 บาท ลดลง 66.00 บาท มีผลต่อดัชนี -7.195 จุด
CPALL ปิดที่ 58.50 บาท ลดลง 2.25 บาท มีผลต่อดัชนี -1.7664 จุด
IVL ปิดที่ 46.25 บาท ลดลง 1.75 บาท มีผลต่อดัชนี -0.8587 จุด
PTT ปิดที่ 39.50 บาท ลดลง 0.25 บาท มีผลต่อดัชนี -0.6241 จุด
GULF ปิดที่ 33.25 บาท ลดลง 0.50 บาท มีผลต่อดัชนี -0.5127 จุด