ทนายยื่นโนติสฐานเศรษฐกิจหยุดนำเสนอข่าว"กรุ๊ปลีส"

11 พ.ค. 2564 | 08:50 น.

ฐานเศรษฐกิจเคยนำเสนอข่าวกรณี ก.ล.ต.รับรายงานการตรวจสอบจากอดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบ บ.กรุ๊ปลีส เรื่องพฤติการณ์อันควรสงสัยของกรรมการ ล่าสุดทนายความยื่นโนติสให้หยุดเสนอข่าว

จากกรณีฐานเศรษฐกิจได้นำเสนอข่าวกรณีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ก.ล.ต.ได้รับรายงานการตรวจสอบจาก นายสกล หาญสุทธิวารินทร์ อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด มหาชน ถึงเลขาธิการ ก.ล.ต. เรื่องพฤติการณ์อันควรสงสัยของกรรมการ หรือบุคคลที่รับผิดชอบในการดำเนินงานของ บริษัทกรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ "GL" เนื่องจากพบพฤติกรรมที่น่าสงสัยในการทำธุรกรรม  ล่าสุด นายสันติภาพ ดําประไพ ทนายความผู้รับมอบอํานาจ ส่งหนังสือแจ้งเตือนขอให้หยุดการกระทําละเมิดและเรียกร้องค่าเสียหาย ลงวันที่ 27 เมษายน 2564 โดยในหนังสือระบุว่า 

เรียน กรรมการผู้จัดการบริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จํากัด อ้างถึง 

1) ข่าวเรื่อง “ยืน ก.ล.ต.สอบ เส้นทางเงินปริศนากรุ๊ปลีส” ลงวันที่ 26 เมษายน 2564

2) ข่าวเรื่อง “เปิดผลสอบ “กรุ๊ปลีส” พบเส้นทางการเงินปริศนาเพียบ ลงวันที่

ตามที่ ท่านได้เผยแพร่ข่าวต่อสาธารณชนในสื่อต่าง ๆ รวมถึงในเว็บไซต์ WWW.THANSETTAKU.COM ที่ท่านเป็นผู้ให้บริการโดยอ้างว่ามีรายงานข่าวจากสํานักงาน คณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า นายสกล หาญสุทธิวารินท์ อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัท กรุ๊ปลีส จํากัด (มหาชน) ทําหนังสือรายงาน ผลการตรวจสอบถึงเลขาธิการ ก.ล.ต. เกี่ยวกับพฤติการณ์อันควรสงสัยของกรรมการหรือ บุคคลที่รับผิดชอบในการดําเนินงานของบริษัท โดยท่านได้เผยแพร่ต่อสาธารชน เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 ปรากฏตามสิ่งที่อ้างถึง 1) และต่อมาเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 ท่านยังได้ เผยแพร่ข่าวในเว็บไซต์และสื่อเดียวกันขยายความรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติการณ์อันควรสงสัย ของกรรมการหรือบุคคลที่รับผิดชอบดําเนินงานของบริษัท โดยในข่าวมีการเปิดเผยเนื้อหาของ ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบ ปรากฏตามสิ่งที่อ้างถึง 2)

บริษัทได้พิจารณาข่าวทั้งสองฉบับแล้วพบว่า เนื้อหาข่าวที่ท่านได้เผยแพร่ต่อประชาชน ทั่วไปนั้นเป็นข่าวเท็จ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ประการที่หนึ่ง บริษัทได้ตรวจสอบการ เผยแพร่ข่าวจากสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงระหว่างวันที่ 19 ถึง 27 เมษายน 2564 แล้วไม่ปรากฏว่า สํานักงานคณะกรรมการ กํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีการเผยแพร่ข่าวตามที่ท่านกล่าวอ้างแต่ประการใด 

ประการที่สอง นายสกล หาญสุทธิวารินท์ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น กรรมการของบริษัททุกตําแหน่งแล้วเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2564 และให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2560 เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลในการลาออกว่าตนมีความเห็นไม่ตรงกับกรรมการที่ เป็นฝ่ายบริหาร

ประการที่สาม ความเห็นของนายสกลตามที่ท่านรายงานข่าวว่านายสกลอ้าง ถึงนั้นเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของนายสกลซึ่งยังไม่สอดคล้องกันกับความเห็นของ คณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการบริษัทกําลังรวมรวมข้อมูลเพื่อชี้แจงเรื่องดังกล่าว

ประการที่สี่ ตามข่าวที่ท่านนําเสนอต่อสาธารณชนนั้นได้ระบุว่า นายสกลได้ทําหนังสือรายงาน ผลการตรวจสอบถึงเลขาธิการ ก.ล.ต. เรื่องพฤติการณ์อันควรสงสัยของกรรมการหรือบุคคลที่ รับผิดชอบในการดําเนินงานของบริษัทกรุ๊ปลีส จํากัด (มหาชน) โดยอ้างถึงสําเนาจดหมายของ บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชีจํากัด ผู้สอบบัญชีของบริษัทกรุ๊ปลีส จํากัด (มหาชน) ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 และกล่าวอ้างอีกว่าคณะกรรมการตรวจสอบได้มีหนังสือลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ถึงประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ GL ให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจง ข้อเท็จจริง แต่ ณ วันที่ 15 มีนาคม 2564 ฝ่ายบริหารของ GL และ GLF ยังไม่ได้ส่งคําชี้แจง และเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อคณะกรรมการตรวจสอบ

ทั้งยังอ้างว่าได้รับเอกสารจากเจ้าหน้าที่ ระดับสูงส่งมาในฐานะผู้แจ้งเบาะแสการทุจริต (Whistle blower) ที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่ออีก ด้วยนั้น บริษัทขอเรียนว่านายสกลเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 และภายหลังจากวันดังกล่าว นายสกลไม่ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการ บริษัทจนกระทั่งได้ลาออกไป นายสกลจึงไม่ทราบว่าบริษัทได้ชี้แจงรายละเอียดในข้อสงสัยต่าง ๆ กับบริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชีจํากัด ผู้สอบบัญชีของบริษัทจนในที่สุดผู้สอบบัญชีได้ ออกรายงานการสอบทานงบการเงินระหว่างกาลของบริษัทและได้เผยแพร่ต่อสาธารณชนเป็น ที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564

ดังนั้น เนื้อหาที่ระบุในข่าวที่ว่า “พบพฤติกรรมที่ น่าสงสัยในการทําธุรกรรมของ จีแอล ไฟแนนซ์ ประเทศกัมพูชา (GLF) บริษัท ย่อยของ GL กรณี GLF โอนเงินให้ AFP Trading Co. Ltd หรือ APET เป็นเงิน 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่ง ไม่ได้รับคําชี้แจงที่กระจ่างจากผู้บริหารของ GL และเชื่อว่าอาจมีการโอนเงินในทํานองนี้ไปให้ APET หรือนิติบุคคลอื่นอีกหลายครั้ง” จึงเป็นความเท็จไม่เป็นความจริงแต่ประการใด ประการที่ห้า ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่ปรากฏในเนื้อข่าวทั้งสองฉบับนั้น ไม่ครบถ้วนถูกต้องและยังถือว่าเป็นข้อมูลภายในของบริษัทซึ่งเป็นความลับทางการค้าที่ไม่อาจ เปิดเผยต่อสาธารณะได้

ทั้งยังประกอบไปด้วยข้อความที่ไม่ตรงต่อข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอันมีลักษณะเป็นการเจตนากล่าวหาบริษัท กรรมการ ผู้รับผิดชอบดําเนินการ ที่ปรึกษา และบุคคล ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทอันเป็นการใส่ความต่อบุคคลที่สามโดยประการที่ทําให้บริษัทนั้นเสีย ชื่อเสียง ถูกดูหมิน หรือถูกเกลียดชังด้วยการโฆษณา ทั้งการกระทําดังกล่าวของท่านยังเป็นการ ไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง และยังเป็นการนําข้อมูลที่บิดเบือนหรือ ข้อมูลปลอมหรือข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยประการที่น่าจะเกิดความ เสียหายแก่ประชาชน การเผยแพร่ข่าวของท่านโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนถูกต้องเสียก่อน จึงเป็นการกระทําความผิดอาญาและยังเป็นการจงใจกระทําละเมิดทําให้บริษัท และบุคคลที่ท่านได้พาดพิงถึงได้รับความเสียหาย 

นอกจากนี้ท่านยังจงใจระบุแหล่งข่าวอันเป็นเท็จ เพราะเนื้อหาที่ท่านนํามานําเสนอในข่าวยังไม่ได้มีการเผยแพร่โดยสํานักงาน ก.ล.ต. แต่ อย่างใด

โดยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้าในฐานะทนายความผู้รับมอบอํานาจของบริษัท กรุ๊ปลีส จํากัด (มหาชน) ขอแจ้งให้ท่านหยุดการกระทําความผิดทางอาญาและการกระทําละเมิดโดย ขอให้ท่านทําการหยุดเผยแพร่ข่าวดังกล่าวของบริษัท พร้อมทั้งมีหนังสือขออภัยต่อบริษัท เกี่ยวกับการเสนอข่าวอันเป็นเท็จทั้งหมดและทําการเผยแพร่หนังสือขออภัยดังกล่าวลงใน เว็บไซต์ของท่านตลอดทั้งสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ของท่านทันทีเมื่อได้รับหนังสือฉบับนี้ หากพ้น กําหนดดังกล่าวแล้ว ท่านยังคงเพิกเฉยข้าพเจ้าจะดําเนินการตามสิทธิที่ได้รับมอบหมาย และขอสงวนสิทธิในการเรียกร้องให้ท่านชําระค่าเสียหายต่อไป
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ยื่น ก.ล.ต.สอบ​ เส้นทางเงินปริศนากรุ๊ปลีส

เปิดผลสอบ "กรุ๊ปลีส" พบเส้นทางการเงินปริศนาเพียบ

เปิดพฤติกรรมผู้บริหาร "กรุ๊ปลีส" ผ่องถ่ายเงินผ่านบริษัทในกัมพูชา