บริษัททัวร์อ่วมโควิดปิดกิจการแล้ว20,000แห่ง

06 พ.ค. 2564 | 11:55 น.

บริษัททัวร์ ปิดกิจการแล้ว 20,000 แห่ง ทั้งโควิดระลอก 3 ฉุดรายได้วูบ 95% วอนรัฐอุ้ม ทั้งร้องขอให้ผู้ประกอบการรถขนส่งนำทะเบียนรถใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในโครงการพักทรัพย์พักหนี้ได้

นายวสุเชษฐ์ โสภณเสถียร นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไป (สปข.)และรองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอด 3 รอบที่ผ่านมาธุรกิจทัวร์นำเที่ยว ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องยอมรับว่าพฤติกรรมของคนไทยไม่นิยมเดินทางท่องเที่ยวผ่านทัวร์ และนิยมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลมากขึ้น

ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2564 มาจนถึงปัจจุบัน ธุรกิจทัวร์นำเที่ยวแทบไม่เหลืออะไรแล้ว เพราะขณะนี้รายได้หายไปกว่า 95% หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่หายไปไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาทต่อเดือน ที่ผ่านมาผู้ประกอบการทัวร์ในตลาดรวม มีจำนวนราว 50,000 ราย

ขณะนี้เหลืออยู่เพียง 40% หรือ 20,000 ราย เท่านั้นที่หากมีงานกลับมาก็สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ ส่วนอีก 40% หรือ 20,000 ราย ปิดธุรกิจแบบถาวรไปแล้ว ส่วนอีก 20% หรือ 10,000 ราย อยู่ก้ำกึ่งระหว่างการปิดชั่วคราวและปิดถาวร เมื่อธุรกิจทัวร์นำเที่ยวปิดตัวลงจำนวนมาก ส่งผลให้แรงงานในธุรกิจทัวร์นำเที่ยว ถูกเลิกจ้างไปจำนวนมากเช่นกัน จากทั้งระบบมีประมาณ 1 แสนคน ขณะนี้คาดว่าเหลือไม่ถึง 20%

นายวสุเชษฐ์ ยังกล่าวต่อว่าแม้ธุรกิจทัวร์นำเที่ยวจะได้รับผลกระทบจากโควิดมากว่า 1 ปีเต็มแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากมาตรการของรัฐบาลนั้นสิ้น ขออะไรไปก็ไม่เคยได้ จึงต้องการให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการทัวร์นำเที่ยวเพิ่มเติม แม้จะยังไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถออกมาตรการอะไรมาช่วยเหลือภาครถขนส่งโดยสารบ้าง ทั้งจากกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม หรือกระทรวงการคลัง

โดยที่ผ่านมาได้เสนอให้รัฐบาลช่วยเหลือในเรื่องการพักต่อทะเบียนรถ พักการตรวจสภาพรถ รวมถึงการขอวงเงินในการซ่อมแซมบำรุงรักษารถขนส่งที่มีอยู่ ซึ่งทุกอย่างเหล่านี้ถือเป็นค่าใช้จ่ายหมด แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาและตอบรับในการช่วยเหลือแม้แต่รายการเดียว

เนื่องจากข้อเรียกร้องที่เคยขอไปนั้น ยังไม่ได้รับการตอบรับกลับมาจากภาครัฐเลย จึงมองว่ามาตรการพักทรัพย์พักหนี้ หรือ Asset Warehousing ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หากสามารถนำทะเบียนรถที่มีอยู่ ซึ่งยังไม่ได้ติดภาระหนี้สินต่างๆ นำเข้าเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยไม่ต้องประเมินราคาในระดับสูงมากนักก็ได้

เบื้องต้นขอแค่ 7-8 แสนบาทต่อคันเท่านั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำเงินสดออกมาใช้หมุนเวียนในธุรกิจก่อน รวมถึงการซ่อมบำรุงรถที่จอดสนิทอยู่ร่วม 1 ปีเต็มด้วย เพราะรถที่จอดอยู่นิ่งๆ ไม่สามารถนำมาใช้งานทันทีได้ ซึ่งราคาในการซ่อมบำรุงรถแต่ละคัน ตกอยู่ประมาณ 2-3 แสนบาท

อยากเรียกร้องให้รัฐบาล หันมามองธุรกิจนี้บ้าง เนื่องจากหากนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ระบบขนส่งจะมีปัญหาแน่นอน เพราะผู้ประกอบการไม่เหลือรอดรอให้บริการในวันที่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาแล้ว ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้นายทุนต่างชาติเข้ามาฮุบธุรกิจ และควบรวมธุรกิจในหลายบริการ เกิดเป็นผู้เล่นรายใหญ่กินส่วนแบ่งในตลาดที่ผู้เล่นเดิมไม่สามารถแข่งขันด้วยได้

ข่าวเกี่ยวข้อง: