ชงเพิ่ม4จังหวัดต่างชาติฉีดวัคซีนเที่ยวไทยไม่ต้องกักตัว

06 พ.ค. 2564 | 10:10 น.

กระทรวงท่องเที่ยว ชงเพิ่ม 4 จังหวัดต่างชาติฉีดวัคซีนครบโด๊สเข้าไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว หวังฟื้นเศรษฐกิจหวังโควิดคลี่คลาย ทั้งรับโควิดระลอกใหม่ฉุดแผนลดวันกักตัวล่ม แต่ยังเดินหน้าภูเก็ตแซนด์บล็อก 1 ก.ค.นี้ เพิ่มเงื่อนไขผู้ติดเชื้อในพื้นที่ต้องเป็นศูนย์

นายพิพัฒน์ รัชกิจปราการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าในการประชุมคณะกรรมการท่องเที่ยวแห่งชาติ ในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 7 พฤษภาคม2564)กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอขอให้มีการเพิ่มพื้นที่ที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว สามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวได้โดยไม่ต้องถูกกักตัว

โดยจะขอเพิ่มขึ้นมาอีก 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ,เพชรบุรี,ประจวบคีรีขันธ์ บุรีรัมย์ ซึ่งหากรวมกับ 6 จังหวัดเดิมที่อยู่ในจังหวัดนำร่องอยู่แล้ว คือ จังหวัดภูเก็ต,็ต กระบี่, พังงา, สุราษฏร์ธานี (สมุย-พะงัน-เกาะเต่า),ชลบุรี (พัทยา),เชียงใหม่ ก็จะทำให้ภายในปีนี้ประเทศไทยจะมี 10 จังหวัดที่จะนำร่องในเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเดินทางมาเที่ยวไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว

ทั้งนี้ใน 10 จังหวัดนี้จะต้องใช้วัคซีนอยู่ไม่น่าจะเกิน32 ล้านโดส เพื่อฉีดให้คนในพื้นที่คิดเป็นสัดส่วน 70% หรือไม่น่าจะเกิน 16 ล้านคน ถ้าหากคณะกรรมการท่องเที่ยวแห่งชาติเห็นชอบ ก็จะมีการเสนอให้ทางศบค.พิจารณาต่อไป

“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก3 ในขณะนี้รัฐบาลอยู่ในระหว่างการควบคุมสถานการณ์ เพื่อสกัดการแพร่ระบาด โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงเข้ม อย่างกรุงเทพฯและปริมณฑล ไม่ว่าจะเป็นการควบคุม 69 ชุมชนในกรุงเทพฯการเร่งฉีดวัคซีนเชิงรุกเพื่อจะคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดให้ได้ถายในสิ้นเดือนพ.ค.หรืออย่างช้าต้นเดือนมิ.ย.นี้ โดยจะลดจำนวนผู้ติดเชื้อจากหลักพันคน ให้เหลือในระดับหลักร้อยคนเหมือนช่วงก่อนหน้านี้แต่สิ่งที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไปด้วย คือ ด้านเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของประเทศ”

ประกอบกับไทยจะมีวัคซีนโควิด-19 เข้ามา 100 ล้านโด๊สในช่วง4 เดือนนี้ ก็จะมีการขอให้กันไว้สำหรับ10จังหวัดนี้เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางมาเที่ยวไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยจะเริ่มต้นที่จังหวัดภูเก็ต ภายใต้โมเดลภูเก็ต ทัวริสซึม แซนด์บล็อก ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ก่อน เพราะได้มีการโปรโมทไปทั่วโลก โดยที่ผ่านมาคนภูเก็ตฉีดวัคซีนไปแล้ว 2.1 แสนโด๊ส เหลืออีกราว7.4-7.5 แสนโด๊ส ที่กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งนำส่งผลไปเพื่อให้ฉีดได้ครบในช่วงมิ.ย.นี้ ซึ่งทางภูเก็ตมั่นใจว่าสามารถฉีดได้วันละ1.5หมื่นโด๊สได้

 แต่ทั้งนี้ด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก3 ก็ทำให้เราอาจจะต้องพิจารณาว่าภูเก็ตจะต้องเร่งลดการแพร่ระบาดโควิด-19ในพื้นที่โดยให้มียอดผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมั่นใจว่าจะเดินทางเข้ามา ซึ่งการเปิดในวันที่ 1 ก.ค.นี้ก็ต้องพิจารณาเรื่องของผู้ติดเชื้อประกอบด้วยซึ่งต้องไม่มีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ด้วย ไม่เช่นนั้นต่างชาติก็คงไม่มีใครอยากมา ซึ่งก็เชื่อว่าในช่วง2เดือนนี้ภูเก็ตน่าจะคุมได้เพราะมีจำนวนผู้ติดเชื้อไม่มากเหมือนกรุงเทพฯ

ส่วนในอีก 9 จังหวัดที่เหลือก็จะนำร่องการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัวตั้งแต่ 1 ตุลาคม2564 ภายใต้เงื่อนไขประชากรในพื้นที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีน70% ซึ่งจากวัคซีนที่จะเข้ามาเพิ่มสามารถทำได้ เพราะประชากรที่มากสุดอยู่ที่กรุงเทพฯคือ 10 ล้านคน ส่วนจังหวัดอื่นๆก็มีประชากรในหลักราว1ล้านกว่าคน และกว่าจะถึงเดือนต.ค. ใน 9 จังหวัดนี้ก็ไม่จำเป็นที่ต้องมีผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ เพราะกว่าจะถึงตอนนั้นสถานการณ์ก็จะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

อย่างไรก็ตามการที่เพิ่มจังหวัดบุรีรัมย์ เข้าไป เนื่องจากในช่วงวันที่ 6 ตุลาคม2564 จะมีการแข่งขันโมโตจีพี ซึ่งเป็นอีเว้นท์สำคัญโดยในปี62 มีเข้าร่วมชม 2.6 แสนคนในจำนวนนี้ 4.3 หมื่นคนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วน22%  การเปิดให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วมาเที่ยวได้โดยไม่กักตัวก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้

นายพิพัฒน์ ยังกล่าวต่อว่าในส่วนของแผนลดวันกักตัวลงเหลือ 7 วันสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วและ10วันสำหรับนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ที่เป็นส่วนหนึ่งในเฟสแรกของแผนเปิดประเทศรับต่างชาติ ในขณะนี้ก็ต้องล้มไปก่อน เนื่องจากเกิดโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ต้องกลับไปกักตัว 14 วันทุกคนเหมือนเดิม จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

เช่นเดียวกับเรื่องของการเปิดเจรจาจับคู่เมืองท่องเที่ยวหรือ ทราเวล บับเบิ้ล ที่ก็ต้องชลอไปก่อน เพราะสถานการณ์ในไทยยังไม่นิ่ง จากก่อนหน้านี้ที่มี 5 เมืองขอมาเจรจาเปิดทราเวล บับเบิ้ลกับประเทศไทย ได้แก่ สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว มาเลเซีย และฮ่องกง

ข่าวเกี่ยวข้อง: