รายงานข่าวระบุว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตร่าการกระทรวงคมนาคม และอดีตแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (ชัชชาติ สิทธิพันธุ์) โดยมีข้อความว่า ยุทธศาสตร์ชาวบ้านบางระจัน?
เมื่อวานได้ข้อมูลจาก workpointTODAY* แล้วทำให้เข้าใจปัญหาของการขาดแคลนเตียง ขาดรถพยาบาลรับคนป่วย ขาดชุด PPE ขาดศูนย์ Hotline ในวิกฤติโควิดได้ดีขึ้น
รัฐบาลมีแผนกู้เงินมาสำหรับแก้ปัญหาโควิด 1 ล้านล้านบาท
เป็นงบสำหรับงบสาธารณสุข 45,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 22 มีนาคม 2564)
เงินส่วนนี้อนุมัติไป 20,498 ล้านบาท เบิกจ่ายไปจริงเพียง 5,065 ล้านบาท (11.26%)
ค่าใช้จ่ายการเตรียมความพร้อมของสถานพยาบาล อนุมัติไป 10,132 ล้านบาท เบิกจ่ายจริง 0 บาท
ค่าใช้จ่ายสำหรับจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ได้รับอนุมัติไป 2,706 ล้านบาท แต่เบิกจ่ายจริงแค่ 4.1% ของวงเงินอนุมัติ หรือประมาณ 111 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายสำหรับรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้รับอนุมัติไป 1,497 ล้านบาท เบิกจ่ายจริงแค่ 3.7% หรือประมาณ 55 ล้านบาท
นอกจากนี้เรายังเห็นโรงพยาบาลของรัฐอีกหลายๆแห่ง ต้องออกมาขอรับบริจาคสิ่งของ ชุด PPE เวชภัณฑ์ หรือเงินช่วยในการจัดทำโรงพยาบาลสนาม มันคล้ายๆกับว่าเราจะส่งทหารออกไปทำสงครามใหญ่ แต่ต้องมาขอบริจาคเสื้อเกราะ อาวุธ กระสุน กับประชาชน ทั้งๆที่งบประมาณด้านสาธารณสุขที่กันไว้ ก็เข้าใจว่ายังใช้ไม่หมด (หรือว่าเราจะใช้ยุทธศาสตร์ชาวบ้านบางระจัน? ให้ชาวบ้านออกไปรบเอง ซึ่งสุดท้ายชาวบ้านตายหมด)
เมื่อเราเทียบกับงบเยียวยาประชาชน 600,000 ล้าน ที่มีการเบิกจ่ายไปแล้วถึง 81.9% และงบฟื้นฟูเศรษฐกิจจำนวน 355,500 ล้านบาท ที่มีการเบิกจ่ายไปแล้ว 47.5% งบสาธารณสุข 45,000 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายไปในอัตราส่วนน้อยที่สุด (11.26%) ทั้งๆที่งบสาธารณสุขนี้น่าจะเป็นส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะถ้าเราหยุดโควิดไม่ได้ เราก็ต้องเพิ่มงบเยียวยาประชาชนและงบฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อไปไม่สิ้นสุด
การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เป็นมืออาชีพ จัดลำดับความสำคัญ สร้างความเชื่อมั่น ไว้ใจ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราฝ่าวิกฤตินี้ไปได้ครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :