กรมสบส.พัฒนาครูพยาบาลประจำสุขศาลาฯยกคุณภาพบริการพื้นที่ทุรกันดาร  

25 เม.ย. 2559 | 06:05 น.
วันนี้(25 เม.ย.2559)นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดอบรม ผู้บังคับหมวดแพทย์กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน ครูพยาบาลเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำสุขศาลาพระราชทานโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนจำนวน 16 แห่งทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ที่รับผิดชอบงานสุขศาลาพระราชทานรวม 60 คน จัดโดยกรมสบส.ระหว่างวันที่ 25-29 เมษายน 2559  ณ โรงแรมจอมเทียน ปาล์ม บีช โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จ.ชลบุรี เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการประชาชน สนองพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชน ที่อาศัยในถิ่นทุรกันดาร   การคมนาคมเข้าถึงยากลำบาก

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าวว่า ในการอบรมครั้งนี้ กรมสบส. ได้เน้นหนักการทบทวน ฟื้นฟูความรู้และทักษะที่จำเป็นในการให้บริการประชาชน สอดคล้องนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนทุกคนในผืนแผ่นดินไทยได้รับ การดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึง มีคุณภาพ เท่าเทียม และเป็นธรรม สอดคล้องสภาพปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่ซึ่งมีสภาพเป็นป่าเขาและแนวชายแดน การเดินทางยากลำบากกว่าพื้นที่ทั่วไปหลายเท่าตัว ในปีนี้จึงเน้นหนักเรื่องการตรวจวินิจฉัยโรคเบื้องต้นเช่นโรคมาลาเรียที่เกิดจากยุงก้นปล่อง โรคสครัปไทฟัสซึ่งมีไรอ่อนเป็นพาหะ โรคปอดบวมที่มักเกิดแทรกซ้อนหลังจากมีอาการป่วย โรคอุจจาระร่วงจากเชื้ออหิวาตกโรค เป็นต้น การซักประวัติ การตรวจร่างกาย การช่วยเหลือผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน เช่นการห้ามเลือด การช่วยฟื้นคืนชีพ การดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการ การส่งเสริมสุขภาพแม่และเด็ก ความรู้ในการใช้ยาเท่าที่จำเป็นและปลอดภัย  และการสื่อสารให้ความรู้ด้านสุขภาพ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หากผู้ป่วยได้รับการตรวจวินิจฉัยดูแลอย่างถูกต้อง แม่นยำและรวดเร็ว จะช่วยลดความรุนแรง และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตผู้ป่วยได้เป็นอย่างมาก

สำหรับสุขศาลาพระราชทานนี้ เป็นสถานบริการสาธารณสุขขนาดเล็กที่สุด ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร  ดัดแปลงมาจากห้องพยาบาลของโรงเรียน อยู่ในความดูแลของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ให้บริการดูแลสุขภาพประชาชน ในระดับปฐมภูมิแบบผสมผสาน ทั้งการรักษาพยาบาลเบื้องต้นในภาวะปกติและฉุกเฉิน การส่งเสริมสุขภาพ การควบคุมป้องกันโรค เป็นศูนย์ประสานความร่วมมือพัฒนาสุขภาพนักเรียนและชุมชน ทำงานเชื่อมต่อกับ อสม.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและโรงพยาบาลชุมชน ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีทั้งหมด 16 แห่ง ครอบคลุม 40 หมู่บ้าน 14 อำเภอใน 9 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ ตาก เชียงราย แม่ฮ่องสอนยะลาและนราธิวาส บุคลากรเฉลี่ย 3-4 คน ประกอบด้วยครูพยาบาลสนาม 2 คน ผู้ช่วยเหลือคนไข้ 1 คน และอสม.1 คน

ในปี 2559 นี้ กรมสบส.ได้จัดงบประมาณพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสุขศาลาฯ ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ อีกหลายหน่วยงาน เน้นในด้านโครงสร้างอาคารและระบบบริการประชาชนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ตรวจสอบมาตรฐานความเที่ยงตรงของอุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้ประจำ เช่นเครื่องตรวจวัดความดันโลหิต รวมทั้งพัฒนาระบบการรักษาทางไกลหรือเทเลเมดิซีน (Telemedicine) ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เชื่อมโยงสัญญาณกับโรงพยาบาลชุมชน      ครูพยาบาลสามารถปรึกษาและตรวจผู้ป่วยร่วมกับแพทย์ โดยผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล สามารถรักษาได้ทันท่วงที ทั้งนี้โรคที่พบมากในพื้นที่ทุรกันดาร อันดับ 1 ได้แก่โรคทางเดินหายใจเช่นไข้หวัดพบร้อยละ 40 รองลงมา คือระบบทางเดินอาหาร ร้อยละ 26 โรคปวดเมื่อยร้อยละ 14 โรคมาลาเรียร้อยละ 6