ห่วง“ผู้สูงวัยกว่า 3 ล้านคน”เสี่ยงสู้อากาศร้อนจัดไม่ไหว!!เหตุดื่มน้ำน้อยมาก

25 เม.ย. 2559 | 04:42 น.
ดร.นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ โฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า  จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีสภาพอากาศร้อนเพิ่มขึ้นถึง 43-44 องศาเซลเซียส ในวันที่ 25 เมษายน 2559 ซึ่งเป็นผลจากดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับประเทศ ทำให้รังสีของดวงอาทิตย์ค่อนข้างแรงนั้น ขอแนะนำให้ประชาชนเตรียมตัวให้พร้อม โดยให้ดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้นให้ได้วันละ 2,000 มิลลิลิตร หรือ 2 ลิตร สามารถดื่มได้ทั้งน้ำเปล่าทั่วไป และน้ำเย็น เพื่อปรับสมดุลร่างกาย ช่วยหล่อเลี้ยงเซลล์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกายขณะทำกิจกรรมต่างๆ และยังเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในระบบไหลเวียนเลือดอีกด้วย

โดยปกติแล้วร่างกายจะสูญเสียน้ำประมาณวันละ 2,300 มิลลิลิตร แบ่งออกเป็นการสูญเสียน้ำทางปัสสาวะ 1,400 มิลลิลิตร ทางอุจจาระ 100 มิลลิลิตร และระเหยออกทางเหงื่อและลมหายใจ 800 มิลลิลิตร ดังนั้น ร่างกายจึงจำเป็นจะต้องได้รับน้ำจากภายนอกประมาณวันละ 2,000 มิลลิลิตร หรือประมาณ 6-8 แก้วต่อวัน   จึงจะเกิดความสมดุลของน้ำภายในร่างกาย แต่ในกรณีที่มีการออกกำลังกาย หรือทำงานออกแรง และสูญเสียเหงื่อมาก จะต้องดื่มน้ำให้มากขึ้น 10-12 แก้วต่อวันเพื่อชดเชยน้ำที่เสียไป

“กลุ่มที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ ผู้สูงอายุ ซึ่งขณะนี้ที่ประเทศไทยมี 10 ล้านกว่าคน และอยู่ในวัยที่เสื่อมถอย มีสุขภาพเปราะบางกว่าวัยอื่น ผลสำรวจสุขภาพของกรมอนามัยในปี 2556 พบว่ามีผู้สูงอายุที่ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เหมาะสมเพียงพอกับความต้องการของร่างกายคือวันละ 8 แก้ว หรือมากกว่า ร้อยละ 65 หรือประมาณ 6.5 ล้านคน จากผู้สูงอายุทั้งหมดที่มี 10 ล้านกว่าคน ที่เหลืออีก 3.5 ล้านกว่าคนดื่มน้ำน้อย ซึ่งจะมีผลเสียหรืออันตรายต่อสุขภาพ อาจนำมาสู่ภาวะขาดน้ำ ในช่วงหน้าร้อนที่อุณหภูมิภายนอกสูงกว่าอุณหภูมิของร่างกาย ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำเป็นอย่างมาก” โฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพกล่าว

ทั้งนี้ ผู้สูงอายุที่มีอาการขาดน้ำ จะมีอาการคือชีพจรเต้นเร็วกว่า 120 ครั้งต่อนาที ระดับความดันโลหิตต่ำ มีผลให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะขณะเปลี่ยนท่า อิริยาบถ  เป็นลม หมดสติหรือมีอาการสับสน เยื่อบุปากแห้ง ความยืดหยุ่นของผิวหนังลดลงมาก หากจับผิวหนังและบีบ ผิวจะตั้ง และจะคืนตัวได้ช้ากว่าปกติ หากรุนแรงจะทำให้หัวใจล้มเหลว ไตวายและเสียชีวิตได้   ดังนั้นจึงขอให้ผู้สูงอายุจิบน้ำบ่อยๆ หากจะให้สะดวกขอให้ลูกหลานช่วยเตรียมน้ำดื่มสะอาดบรรจุขวดให้ได้ 2 ลิตร ให้ผู้สูงอายุอายุดื่มบ่อยๆตลอดวัน ซึ่งกรม สบส.ได้ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านทั่วประเทศดำเนินการให้ความรู้และคำแนะนำย้ำเตือนทางหอกระจายข่าว ให้เน้นให้เข้มข้นพิเศษในช่วงสัปดาห์นี้เพื่อป้องกันการสูญเสียให้ได้มากที่สุด

โฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพกล่าวต่อไปว่า สำหรับประชาชนทั่วไป หากมีอาการขาดน้ำจะมีสัญญาณเตือน สามารถสังเกตง่ายๆ ดังนี้คือ มีอาการปวดศีรษะที่บริเวณขมับ ริมฝีปากแห้ง คอแห้ง อาจเกิดอาการร้อนใน เป็นแผลในปาก       สีของปัสสาวะจะเหลืองเข้ม และให้ใช้โอกาสนี้สร้างพฤติกรรมฝึกดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยดื่มหลังตื่นนอนให้ติดเป็นกิจวัตร หมั่นสังเกตสีของปัสสาวะหลังปัสสาวะทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่ายังใสหรือมีสีเหลืองอ่อนอยู่เสมอ ความใสของน้ำปัสสาวะเป็นเสมือนดัชนีชี้วัดว่าร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ผู้ที่นั่งทำงาน ให้จัดหาน้ำใส่แก้วตั้งไว้ใกล้ตัว เพื่อความสะดวกในการหยิบดื่มได้ง่าย