หวั่นซ้ำรอย ขอนแก่น"ขนส่ง" เรียกตรวจรถโดยสารติดก๊าซ CNG ทั่วประเทศ

17 เม.ย. 2564 | 06:44 น.

กรมการขนส่งทางบก เผยกรณีอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางเกิดเพลิงไหม้ ที่ จ.ขอนแก่น เรียกตรวจความปลอดภัยรถโดยสารที่ติดตั้งก๊าซ CNG ทั่วประเทศ ด้านผู้ประกอบการขนส่ง เปรียบเทียบปรับทันที 50,000 บาท

 

 

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางสองชั้นเกิดเพลิงไหม้ เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 23.25 น. ซึ่งเป็นรถคันหมายเลขทะเบียน 10-7387 อุดรธานี เส้นทางกรุงเทพฯ – อุดรธานี รับผู้โดยสารจากจังหวัดอุดรธานี จำนวน 33 คน มุ่งหน้าไปยังกรุงเทพมหานคร เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ บริเวณ ทล. 2 ถนนมิตรภาพ กม. 319 – 320  ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ยางล้อหลังด้านขวาเกิดระเบิดและเกิดเพลิงลุกไหม้ลุกลาม

ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวน 5 ราย และบาดเจ็บ 12 ราย นั้น ภายหลังเกิดเหตุกรมการขนส่งทางบกได้จัดส่งทีมสืบสวนอุบัติเหตุจากส่วนกลางลงพื้นที่ตรวจสอบอุบัติเหตุ ณ สถานที่เกิดเหตุใน จ.ขอนแก่น เพื่อตรวจสอบเบื้องต้นซึ่งคาดว่าอาจเกิดจากความผิดปกติของเบรกที่ล้อหลังขวาจนเกิดความร้อนสูงทำให้ยางระเบิด ไปกระทบกับระบบถังก๊าซ CNG จนเกิดการรั่วไหลและเกิดเพลิงลุกไหม้ตัวรถอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ต้องรอผลการตรวจสอบที่แน่ชัดและรอผลการสอบสวนของตำรวจเพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

 หวั่นซ้ำรอย ขอนแก่น"ขนส่ง" เรียกตรวจรถโดยสารติดก๊าซ CNG ทั่วประเทศ

       อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของมาตรการทางกฎหมาย กรมการขนส่งทางบก โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น ดำเนินการเปรียบเทียบปรับ บริษัท 407 พัฒนา จำกัด ผู้ประกอบการขนส่งในข้อหาใช้รถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง ทำการขนส่งนอกเส้นทาง และไม่นำรถเข้าสถานีขนส่งผู้โดยสาร เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท และสั่งถอนรถคันดังกล่าวออกจากประกอบการขนส่งทันที พร้อมให้ผู้ประกอบการขนส่งนำรถโดยสารสองชั้นที่ติดตั้ง CNG อีกจำนวน 48 คัน ซึ่งเป็นรถลักษณะเดียวกันกับคันเกิดเหตุมาเข้ารับการตรวจสภาพรถ สภาพระบบห้ามล้อและระบบ CNG ทุกคันให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ ในส่วนของผู้ขับรถ

ปัจจุบันพนักงานสอบสวนได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขับรถในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญา และจากการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิดฐานไม่ใช้เครื่องอุปกรณ์ส่วนควบ (GPS) บางช่วงเวลา กรมการขนส่งทางบกจึงได้ดำเนินการลงโทษเปรียบเทียบปรับและพักใช้ใบอนุญาตขับรถของผู้ขับรถดังกล่าวไว้ก่อน โดยเมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้ขับรถโดยประมาทแล้ว กรมการขนส่งทางบกจะพิจารณาดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตขับรถต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในลักษณะดังกล่าวในอนาคต กรมการขนส่งทางบกจะทำการขยายผลโดยการเรียกรถโดยสารที่มีการติดตั้งก๊าซ CNG ทั้งหมดทั่วประเทศมาดำเนินการตรวจสภาพรถ ทั้งด้านมาตรฐานความปลอดภัย และระบบ CNG ณ สำนักงานขนส่ง ดังนี้ รถโดยสาร 2 ชั้น ที่ติดตั้งก๊าซ CNG ซึ่งมีอยู่ทั้งหมดทั่วประเทศจำนวน 143 คัน ให้มาดำเนินการตรวจสภาพรถให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ รถโดยสารระหว่างจังหวัดที่ติดตั้งก๊าซ CNG ทั้งหมดทั่วประเทศรวม 2,175 คัน ให้มาดำเนินการตรวจสภาพรถให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน