“วัชระ”ตอก"เต้น"หน้าหงายเชิดชูกลุ่ม 3 นิ้ว ยังไม่สำนึก

12 เม.ย. 2564 | 08:31 น.

“วัชระ”ตอก"เต้น-ณัฐวุฒิ"หน้าหงายหลังออกจากคุกมาเชิดชูแก๊ง 3 นิ้ว ชี้ย้อนดูอดีตสร้างความหายนะให้บ้านเมืองนับไม่ถ้วน ยังไม่สำนึก

วันนี้(12 เม.ย.64) กรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช.ออกมาปราศรัยสดุดีแกนนำม็อบ 3 นิ้ว พร้อมหยิบแมสรูปภาพ นายอานนท์ นำภา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่ถูกคุมขังจาก ม.112 และ ม.116 โดยระบุว่านอกจากป้องกันเชื้อระบาดและยังจะป้องกันเชื้ออุบาทว์ได้ด้วย ขณะเดียวกันยังพูดถึงเหตุการณ์ของคนเสื้อแดงที่ชุมนุมกันเมื่อ 11 ปีที่แล้วว่า

"พวกคุณจำได้ไหมที่พวกคุณไล่ยิงไล่ฆ่าผมกลางถนนและพวก เมื่อ 11 ปีที่ผ่านมา ผมกลับมายืนตรงนี้อีก ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ รักลูกสาวฝาแฝด 2 คนขนาดไหน พ่อแม่ของเพนกวิน รุ้ง ไผ่ และเด็กทุกคนในเรือนจำก็รักลูกสุดหัวใจเหมือนกัน ขอบอกน้องๆ เยาวชนหนุ่มสาวที่กำลังต่อสู้อยู่ทุกคน  ในนามคนเสื้อแดง ผมสำนึกบุญคุณของคนหนุ่มสาว ถ้าหากถึงวินาทีที่หัวใจต้องตัดสินว่าจำเป็นแล้วที่จะต้องทำหน้าที่ปกป้องคนหนุ่มสาวอีกครั้ง จะแจ้งให้ทราบอีกทีขอให้คนเสื้อแดงทั้งหลายปรบมือให้กับลูกหลานของพวกเรา" แล้ววันต่อมายังโฟสต์เฟซบุ๊กว่าตนมาดีนั้น

นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายณัฐวุฒิเคยปราศรัยปลุกระดมผ่านทีวีเสื้อแดงว่า "ถ้าคุณยึดอำนาจ ผมให้เผาทั่วประเทศ เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง ถ้าใครจะจับมาเอากับผม อย่างที่ผมบอกคนเสื้อแดงขี้ตกใจ หากยิงตูม คนเสื้อแดงจะวิ่งเข้า(ห้าง) เกษร พารากอน วิ่งเข้าโรงแรม แนวโน้มการตกใจมีหลายประการ บางคนตกใจวิ่งหากระเป๋าแบรนด์เนม บางคนตกใจวิ่งเข้าหาเครื่องประดับ ทอง เพชร บางคนตกใจชอบขับรถเข้าไปในห้าง บางคนตกใจจุดไฟเข้ามาก็มี" 

ต่อมามีจลาจล เผาบ้านเผาเมืองใจกลางกรุงเทพฯ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี

คนเสื้อแดงเผา พี่น้องเสื้อแดงถูกจำคุก ตายในคุก บาดเจ็บล้มตายบ้านแตกสาแหรกขาด ไม่ได้เรียนหนังสือ เรื่องทั้งหมดนี้ นายณัฐวุฒิ รับผิดชอบอย่างไรบ้าง การที่ นายณัฐวุฒิ บอกว่าใส่แมสป้องกันเชื้อระบาด หรือเชื้ออุบาทว์ ก็ไม่แน่ใจว่าจะป้องกันเชื้ออุบาทว์เข้า หรือป้องกันเชื้อออกกันแน่ การพูดปลุกระดมของ นายณัฐวุฒิ ไม่เคยเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับการปล่อยตัวจากคุกให้เร็วกว่าโทษปกติก็ตาม 
 

นายวัชระ ระบุด้วยว่า ตนเชื่อแล้วว่าคุกไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีเสมอไป และคนที่เคยเป็นรัฐมนตรีก็ไม่ได้มีมาตรฐานตามประมวลจริยธรรมทุกคน นายณัฐวุฒิ บอกว่าเขาถูกไล่ล่า แล้วกองกำลังชายชุดดำมาจากไหน ใครเผาบ้านเผาเมือง ใครบาดเจ็บล้มตายทุกฝ่าย ประชาชนและเด็กผู้บริสุทธิ์ทำไมต้องถูกอาวุธสงครามล้มตายด้วย 

บาปเก่ายังไม่สำนึก กลับปลุกระดมยกย่องแกนนำ 3 นิ้วที่ทำผิดกฎหมาย แล้วบอกว่าคอยดูการตัดสินใจของตนเอง แล้วบอกว่าตนมาดีนั้นใครจะเชื่อบ้าง ต้องย้อนไปฟังคำพูดของ นายสุจินต์ พิมเสน อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองนครศรีธรรมราช ในฐานะอาจารย์ผู้ปั้น นายณัฐวุฒิ ให้เป็นนักพูด 

นายสุจินต์เชื่อว่า เพราะเงินตัวเดียวเท่านั้นที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป แต่นายณัฐวุฒิ กลับบอกว่าอาจารย์เคยเห็นเงินร้อยล้านหรือเปล่า เงินร้อยล้านเคยเห็นแล้วและจับต้องได้ เคยจับต้องแล้ว จึงอย่าได้แปลกใจว่าเหตุใด นายณัฐวุฒิ ยังคงเป็นเช่นนี้ แล้วพี่น้องเสื้อแดงนับล้านๆ คนได้จับต้องเงิน 100 ล้านแบบนายณัฐวุฒิหรือไม่ 


 

การที่ นายณัฐวุฒิ เชิดชูวีรกรรมและสำนึกในบุญคุณแกนนำ 3 นิ้วแล้วย้อนไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ ว่ารักลูกมากปานใด พ่อแม่ของแกนนำ 3 นิ้วก็รักมากปานนั้น เมื่อ นายณัฐวุฒิ ยกย่องว่าแกนนำ 3 นิ้วทำถูก ทำเพื่ออนาคตของประเทศ เหตุใด นายณัฐวุฒิ ไม่ส่งลูกๆ ของตนมาอ่านสคริปขึ้นเวทีม็อบ 3 นิ้ว แบบเพนกวิน รุ้ง ไผ่ อานนท์ หรือ น้องมายด์บ้าง เพราะได้ข่าวว่ามีคารมคมคายไม่แพ้ผู้เป็นบิดา ซึ่งภรรยา นายณัฐวุฒิ เป็นผู้เปิดเผยเองในการเข้าคุกครั้งหลังสุดของ นายณัฐวุฒิ ว่า ลูกถามดิฉันว่า "คราวนี้พ่อโดนกี่ปี" นายณัฐวุฒิ อาจไม่ได้รักแกนนำม็อบ 3 นิ้วมากเท่าลูกในไส้ของตนก็ตาม แต่ขอให้เห็นแก่ลูกๆ ของ นายณัฐวุฒิ ด้วย เพราะยังไม่ทราบว่าเหลืออีกกี่คดี

และประการสำคัญคำพูดของ นายณัฐวุฒิ ถ้าหากมีประชาชนไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ว่าคำพูดหมิ่นเหม่ต่อสถาบัน หรือ เข้าข่ายผู้สนับสนุนให้เยาวชนให้กระทำความผิดตาม ม.112 และ ม.116 ก็อาจมีปัญหาทางกฎหมายติดตามหลอกหลอน นายณัฐวุฒิ ได้ในที่สุด 

และถ้าถามว่าทำไมต้องออกมาดักคอ นายณัฐวุฒิ เพราะไม่เชื่อว่ามาดีนั่นเอง พฤติกรรมที่ผ่านมาคือคำตอบอย่างดี จากนี้ไปจะไม่ยอมให้ นายณัฐวุฒิ ปลุกระดมฝ่ายเดียว ทำให้คนหลงเชื่อเข้าใจผิดอีกแล้ว