บีเวล ปรับทัพจับวัยรุ่น หลังตลาดท่องเที่ยวทรุดหนัก

15 เม.ย. 2564 | 06:28 น.

"บีเวล" บุกตลาดรังนก ดึงหนุ่มฮอท "กลัฟ คณาวุฒิ" นั่งพรีเซ็นเตอร์เจาะกลุ่มวัยรุ่น หวังโกยยอดขายปีนี้ 200 ล้านบาท

นางสาวธนัทอร สุรีย์รักษณ์ ประธานบริหาร บริษัท ไทยเนส คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มรังนก บีเวล (Bwell) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรังนกของประเทศไทย มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น 

บีเวล ปรับทัพจับวัยรุ่น หลังตลาดท่องเที่ยวทรุดหนัก

โดยปัจจุบันประเทศไทยมีผลผลิตรังนกปีละประมาณ 200 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 9,000 ล้านบาท เมื่อรวมรังนกที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมเครื่องดื่มรังนกสำเร็จรูป ตลาดรังนกไทยจะมีมูลค่ารวมมากกว่าปีละ 10,000 ล้านบาท

ในส่วนของบริษัทสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ได้เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสจากเดิมกลุ่มเป้าหมายหลักของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มรังนกบีเวล เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้มีการปรับมาเจาะตลาดคนไทยแทน 

โดยเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านออนไลน์ และทีวีช้อปปิ้ง ส่งผลให้ปีที่ผ่านมาตลาดในประเทศมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 18% ส่วนในปี 2564 ตั้งเป้าเติบโต 60%  คาดว่าบีเวลจะมียอดขายในประเทศ 200 ล้านบาท

บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ เพราะนอกจากฐานลูกค้าเดิม คือคนวัยทำงานแล้ว ปีนี้ได้เปิดตลาดใหม่เน้นกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มคนเริ่มทำงาน โดยพยายามสื่อให้กลุ่มเป้าหมายเห็นว่า เครื่องดื่มรังนกไม่ได้เป็นเพียงของซื้อฝากหรือของเยี่ยมผู้ป่วย แต่เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนแรก กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ จาก “TharnType The Series” เพื่อเป็นตัวแทนสื่อให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มรังนกบีเวล คนรุ่นใหม่ก็สามารถดื่มได้ และกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายเกิดแนวคิด Bwell Be You Be Young เป็นคุณที่อ่อนเยาว์ได้นานกว่า

นอกจากนี้ เครื่องดื่มรังนกบีเวล ยังได้ปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ (Repackaging) ให้ดูทันสมัย ดีไซน์รูปแบบขวดโค้งมนให้เหมาะกระชับมือ และเปลี่ยนขนาดบรรจุจาก 180 มล. เป็น250 มล. ราคา 130 บาท โดยมีวางจำหน่าย 4 รสชาติ ประกอบด้วย บีเวลรังนกแท้สูตรน้ำมะพร้าว บีเวลรังนกแท้สูตรลิ้นจี่ ผสมคอลลาเจน กลูตาและแอลคาเนทีน  บีเวลรังนกแท้สูตรไซลิทอล และบีเวลรังนกแท้สูตรน้ำตาลกรวด 

ปัจจุบันสามารถหาซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ Lazada, Shopee, JD, ทีวีช้อปปิ้ง และช่องทางออฟไลน์ 7-11, Gourmet Market และร้านค้าชั้นนำทั่วไป

ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจของบริษัท จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนการรับผลิตสินค้า (O.E.M.) ให้กับยี่ห้ออื่นๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มรังนก และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ บริษัทฯ มุ่งเน้นในการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ มีการนำข้อมูลวิจัย เทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาสินค้า กระบวนการผลิต และการผลิตสินค้าของบริษัทฯ เอง

โดยแบ่งเป็น เครื่องดื่มรังนกและคอสเมติกที่สกัดจากรังนก ซึ่งบริษัทฯได้พัฒนาสินค้าแต่ละประเภทให้มีความหลากหลายและแตกต่าง เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยคิดเป็นสัดส่วนในประเทศ 40% และต่างประเทศ 60% ประกอบด้วย  จีน อเมริกา สิงคโปร์ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฮ่องกง  พม่า เวียดนาม ลาว และกัมพูชา ซึ่งประเทศจีนถือเป็นตลาดหลักของบริษัท

บีเวล ปรับทัพจับวัยรุ่น หลังตลาดท่องเที่ยวทรุดหนัก

“การทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มรังนกในต่างประเทศ ผู้บริโภคมีความตื่นตัวและตระหนักเรื่องของสุขภาพมาก เข้าใจประโยชน์ของรังนกเป็นอย่างดี ทำให้บริษัทสามารถสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย ส่วนในประเทศ ผู้บริโภคยังมีความเชื่อว่ารังนกเป็นสินค้าซื้อฝาก หรือเยี่ยมผู้ป่วย การทำการตลาดจึงต้องพยายามนำผลงานวิจัยถึงคุณโยชน์ของรังนก มาสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแนวคิดมาเป็นการดื่มเพื่อดูแลตัวเอง”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: