IPO ไตรมาสแรกทะลุ 2.17 แสนล้าน

10 เม.ย. 2564 | 23:06 น.

ไอพีโอใหม่ 3 เดือนแรกของปี 64 ระดมทุนแล้ว 5 บจ. มูลค่าระดมทุน 48,309.93 ล้านบาท มาร์เก็ตแคปรวม 217,417 ล้านบาท พร้อมจับตาหุ้นน้องใหม่ “ทางยกระดับดอนเมือง” เตรียมเสนอขาย 140 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท 

ในช่วงปี 2563 ที่ผ่าน ถึงแม้จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จำเป็นต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคม ส่งผลต่อการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ที่ต้องชะงักลงจากการไม่สามารถดำเนินกิจกรรมก่อนเสนอขายไอพีโอได้ แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มกลับมาคลี่คลายในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ได้เริ่มทยอยเสนอขายอย่างคึกคัก ต่อเนื่องถึงต้นปี 2564 โดยเฉพาะหุ้นไอพีโอใหม่ขนาดใหญ่ที่เข้ามาสร้างสีสันให้ตลาดหุ้นไทยคึกคักอีกครั้ง 

รายงานข่าวจากตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นไอพีโอ ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2564 ระยะเวลา 3 เดือน มีบจ.เข้าจดทะเบียนรวม 5 ราย มูลค่าระดมทุนรวมอยู่ที่ 48,309.93 ล้านบาท และมูลค่าหลักทรัพย์ (มาร์เก็ตแคป) ณ ราคาไอพีโออยู่ที่ 217,417 ล้านบาท โดยเป็นการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ SET จำนวน 2 ราย มูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 47,520.00 ล้านบาท และมาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโออยู่ที่ 214,380.00  ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ฯ mai มีจำนวน 3 ราย มูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 789.93 ล้านบาท และมาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโออยู่ที่ 3,037.00 ล้านบาท 

ทั้งนี้จากสถิติเมื่อเทียบกับประเทศในอาเซียนแล้วจะเห็นว่า หุ้นไอพีโอที่เข้าจดทะเบียนในไตรมาส 1 ปี 2564 ของไทยสูงที่สุดในอาเซียน จากข้อมูล ณ เดือน ก.พ.ที่มีมูลค่าระดมทุน 4.61 หมื่นล้านบาท (1,484 ล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับอันดับ 2 ประเทศอินโดนีเซียอยู่ที่ 5.96 พันล้านบาท (192 ล้านดอลลาร์) และอันดับ 3 มาเลเซีย 497 ล้านบาท (16 ล้านดอลลาร์)

IPO ไตรมาสแรกทะลุ 2.17 แสนล้าน

ขณะที่ในปี 2563 มีบจ.ใหม่ทั้งหมด 26 ราย มูลค่าระดมทุนรวม 130,793.88 ล้านบาท และมาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโออยู่ที่ 550,049.12 ล้านบาท โดยเป็นการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ SET จำนวน 14 ราย มูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 127,014.62 ล้านบาท และมูลค่าหลักทรัพย์ (มาร์เก็ตแคป) ณ ราคาไอพีโออยู่ที่ 534,864.82 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ฯ mai มีจำนวน 12 ราย มูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 3,779.26 ล้านบาท และมาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโออยู่ที่ 15,184.30 ล้านบาท 

สำหรับการเปิดซื้อขายวันแรกของหุ้นไอพีโอใหม่ปี 2564 ราคาเปิดสูงกว่าราคาจองซื้อทุกบริษัท โดยบริษัท จักรไพศาล
เอสเตท จำกัด (มหาชน) (JAK) ราคาเปิดที่ 2.26 บาท เพิ่มขึ้น 0.81 หรือ 55.86% จากราคาไอพีโอ 1.45 บาท, บริษัท ปตท. นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เปิดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท หรือ 47.22% จากราคาไอพีโอ 18.00 บาท, บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR) เปิดที่ 15.30 บาท เพิ่มขึ้น 10.20 บาท หรือ 200.00% จากราคาไอพีโอ 5.10 บาท, บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (KISS) เปิดที่ 15.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท หรือ 66.66% จากราคาไอพีโอ 9.00 บาท และบริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) (PACO) เปิดที่ 3.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.10 บาท หรือ 150.00% จากราคาไอพีโอ 1.40 บาท 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีบริษัทที่อยู่ระหว่างพิจารณาคำขอเข้าจดทะเบียนจำนวน 15 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีบริษัทที่น่าสนใจ คือ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT) ผู้บริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โครงการทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ทางยกระดับดอนเมือง โดยล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขอเสนอขายหุ้น (ไฟลิ่ง) แล้ว ซึ่งจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 140,000,000 หุ้น มูลค่าระดมทุนอยู่ที่ประมาณ 2,000,000,000 บาท และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลท.ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 

นายธานินทร์ พานิชชีวะ กรรมการผู้จัดการ DMT กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้การเดินทางสัญจรลดลงจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดและทำให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวชะลอตัวลง ทำให้ปี 2563 มีปริมาณการจราจรเฉลี่ยต่อวันของทางยกระดับดอนเมืองช่วงดินแดง-ดอนเมือง อยู่ที่ 58,140 คันต่อวัน ลดลงจากปี 2562 ที่มีจำนวน 92,914 คันต่อวัน และช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถานแห่งชาติ อยู่ที่ 37,143 คันต่อวัน จากเดิมปี 2562 ที่มีจำนวน 54,376 คันต่อวัน 

ขณะที่ ผลประกอบการปี 2563 มีรายได้จากการค่าผ่านทางรวม 2,047 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 791 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มองว่าปี 2563 ปริมาณการจราจรเฉลี่ยต่อวันถือเป็นจุดตํ่าสุด และคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในปีนี้ หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,669 วันที่ 11 - 14 เมษายน พ.ศ. 2564