เตรียม เปิดตัว “กัญชา-กัญชง” เป็นพันธุ์พืชควบคุม น้องใหม่

06 เม.ย. 2564 | 08:15 น.

​​​​​​​อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เตรียมเพิ่ม “กัญชา-กัญชง” เป็นพันธุ์พืชควบคุม เผย รัฐมนตรีเกษตรฯ กำลังลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ พร้อมแจกคู่มือ คลิกดาวน์โหลด ฟรี!

พิเชษฐ์ วิริยะพาหะ

 

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ  อธิบดี กรมวิชาการเกษตร เผยถึงนโยบายขับเคลื่อนงาน "กัญชา -กัญชง" ของกรมวิชาการเกษตร ว่า  หลังมีนโยบายการส่งเสริมการปลูกกัญชา- กัญชง ที่ได้รับมอบหมายจาก  นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ให้กรมวิชาการเกษตรเร่งดำเนินการโดยเร่งด่วนในการเข้ามาดูกระบวนการปลูก ให้กับประชาชนและเกษตรกรที่สนใจจะปลูกกัญชาและกัญชง โดยกรมได้จับมือทำงานกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดภายใต้กฎหมายที่รองรับ

 

กรมวิชาการเกษตร  มีภารกิจ ในการศึกษาวิจัยพัฒนาพันธุ์ การหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูก พันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่  นอกจากนั้นยังต้องมีมาตรการควบคุมพันธุ์พืชตามกฎหมายของกรมอีกด้วย   ทั้งนี้เพื่อให้การส่งเสริมการปลูกกัญชา-กัญชง ของประเทศสามารถที่จะเอื้อประโยชน์กับประชาชน เกษตรกรให้ได้มากที่สุดและมีส่วนในการช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้สมกับเจตนารมย์ของโครงการ 

 

ต้นพันธุ์

 

นายสุรกิตติ  ศรีกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดการพืช กรมวิชาการเกษตร (กวก.) กล่าวว่าภาระกิจงานของกรมในการขับเคลื่อนงานด้านกัญชานั้นจะเน้นในเรื่องต้นทาง ที่จะวิจัยและพัฒนาพันธุ์กัญชา-กัญชง ให้ตอบสนองกับความต้องการใช้ทั้งด้านทางแพทย์ ตลอดจนอุตสาหกรรรมต่อเนื่องของประเทศ เพื่อให้กัญชา-กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สามารถทำให้ประชาชนฐานรากมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นผ่านระบบบริหารที่เป็นไปตามเงื่อนไขของกระทรวงสาธารณสุข

 

โดยงานวิจัยกัญชาของกรมจะมีการดำเนินการ 2 รูปแบบคือ กรมวิจัยเอง กับจับมือสถาบันการศึกษาร่วม ทั้งนี้เพื่อให้ต้นทางคือเกษตรกร ได้มีการเตรียมวัสดุปลูก เมล็ดพันธุ์ ต้นพันธุ์ ที่เหมาะสม เพื่อให้สารยาและน้ำมันดีที่สุด

 

 

กัญชา - กัญชง ที่ผลิตในประเทศ ส่วนไหนเป็น - ไม่เป็นยาเสพติด

 

ในส่วนที่ กรมวิชาการเกษตร วิจัยเองทดลองใน 3 รูปแบบเพื่อเก็บข้อมูลเป็นฐานวิจัยกัญชา -กัญชง ตั้งแต่การปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยวและเป็นการศึกษาถึงความเหมาะสมในการปลูกเพื่อถ่ายทอดให้กับประชาชน เกษตรกรจึงต้องครอบคลุมรูปแแบบการปลูกทั้งหมดประกอบด้วย 1.การปลูกแบบเซมิอินดอร์ในโรงเรือนของกรมวิชาการเกษตร บางเขน ซึ่งมีการปรับปรุงอาคารมาทำโรงเรือน ซึ่งคาดว่าจะปลูกได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้  ซึ่งในจุดนี้จะทดลองปลูกทั้งกัญชาและกัญชง  คาดว่าจะได้ผลผลิตคือเมล็ดประมาณเดือน ต.ค.-พ.ย.

 

จากนั้นกรมวิชาการเกษตร จะนำมาคัดพันธุ์เพื่อให้ได้พันธุ์ดีและเหมาะสมเพื่อขยายไปสู่เกษตรกรต่อไป 2.การทดลองปลูกในระบบปิดที่ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย  จะทดลองปลูกทั้งกัญชา-กัญชง ปัจจุบันกำลังก่อสร้างอาคารเพาะปลูกและบางส่วนสำหรับจัดแสดงการปลูกกัญชา-กัญชง ตั้งแต่การเพาะเมล็ด จนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจสามารถเข้ามาชมได้ โดยจะมีการจัดพื้นที่เป็นสัดส่วนผู้เข้าชมจะชมผ่านห้องกระจกเข้าไปเท่านั้น 

 

และ3.การทดลองปลูกเฉพาะกัญชง แบบเซมิอินดอร์ ในพื้นที่ศูนย์วิจัยการเกษตร  36 แห่งและสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร(สวพ.) ทั่วประเทศ โดยกรมจะรวบรวมสายพันธุ์กัญชงทั้งในและต่างประเทศ ทั้งพันธุ์ชนิดเส้นใย พันธุ์ชนิดสกัดสาร CBD และพันธุ์ที่สกัดน้ำมันจากเมล็ด ทดลองปลูกเพื่อวิจัยว่าสายพันธุ์ใดเหมาะสมกับพื้นที่ไหนมากที่สุดและให้สาร CBD และพันธุ์ที่ใช้สำหรับสกัดน้ำมัน และชนิดใดให้สารTHC น้อยกว่า 1   ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นผลผลิตที่สามารถป้อนระบบอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม อาหาร และเครื่องสำอางได้ในอนาคต  การวิจัยส่วนที่2  คือกวก.จับมือกับสถานศึกษาคือมหาวิทยาสุรนารีและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ในการพัฒนาสายพันธุ์   

 

“ผลผลิตในระยะแรกต.ค. -พ.ย.ปี 64 จะมี 2แบบคือเมล็ดและกิ่งตัดชำ ที่จะมาจากต้นกล้าพันธุ์ดีผลผลิตชุดนี้คาดว่าจะออกมาทุกจุดทดลอง ซึ่งกรมจะมีการบริหารจัดการให้กับสถาบันเกษตรกร สหกรณ์ ที่เข้าโครงการตามเงื่อนไขของกระทรวงสาธารณสุข   นอกจากนั้นกรมอยู่ระหว่างการจัดทำแผนที่แสดงพื้นที่ที่มีศักยภาพในการปลูกกัญชา- กัญชง แบ่งเป็นพื้นที่เหมาะสมที่สุด ปานกลาง พอใช้ และไม่เหมาะสม  พร้อมทั้งกรมวิชาการเกษตร  ได้จัดคู่มือแนะนำในการปลูกให้กับเกษตรกรเร็วๆนี้จะสำเร็จออกมา ในระยะที่สองกรมจะเริ่มพัฒนารูปแบบการปลูกแบบเพาะเนื้อเยื่อ  ในระยะต่อไปจะนำไปสู่การยกระดับแปลงปลูกเข้าสู่มาตรฐานการผลิตแปลงจีเอพี”

 

นอกจากนั้นมีงานวิจัยกัญชาทางการแพทย์ที่ กวก.ทำร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในโครงการ กัญชา  6 ต้น โนนมาลัยโมเดล  ซึ่งมีเกษตรกร 7  รายเข้าโครงการ  ในอนาคตต่อไปหากกระทรวงสาธารณสุขได้ขยายโครงการไปในพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ กรมก็พร้อมจะเข้าไปสนับสนุนทางวิชาการในเรื่องการปลูกและการดูแลควบคู่กันไป

 

ทั้งนี้ภาระกิจของกรมวิชาการเกษตร  ยังมีในส่วนของการดำเนินการภายใต้กฎหมายของกรมที่ประกอบด้วย พ.ร.บ.กักพืช  พ.ศ.  2507   พรบ.คุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ.  2542 และ พรบ.พันธุ์พืช  พ.ศ.2518 ที่กรมจะใช้สำหรับงานควบคุมการนำเข้า การผลิตเพื่อการจำหน่าย โดยล่าสุดคณะกรรมการพันธุ์พืช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้พิจารณาให้ “กัญชา-กัญชง” เป็นพันธุ์พืชควบคุม ตามพรบ.พันธุ์พืช  มีผลให้การนำเข้าพันธุ์ การผลิตเพื่อการจำหน่าย จะต้องมีการควบคุมคุณภาพการผลิต ความแท้ของสายพันธุ์ หรือเปอร์เซ็นต์การงอกเป็นต้น ร่างดังกล่าวขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้

 

การดำเนินการทั้งหมดจะช่วยลดความเสี่ยงให้กับประชาชนและเกษตรกรที่สนใจในการปลูกกัญชา - กัญชง ตั้งแต่รูปแบบของการปลูก ชนิดสายพันธุ์ การปลูก การดูแลรักษา ที่มีความเหมาะสมกับในแต่ละสภาพพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้การขับเคลื่อนงานกัญชา - กัญชง สำเร็จไปได้ด้วยดี

 

กรมวิชาการเกษตร  แจกฟรี!!! คู่มือการขออนุญาตปลูกกัญชาสำหรับ "เกษตรกร" สนใจคลิกดาวน์โหลดด้านล่างนี้

https://drive.google.com/.../12G6pQlBnizlZ7ZzAOIZKti.../view