ไทยพร้อมขึ้น “ฮับกัญชา-กัญชง” ตีตลาดโลก 8 แสนล้าน

04 เม.ย. 2564 | 10:19 น.

“อลงกรณ์”ชี้ศักยภาพไทยพร้อมขึ้น ”ฮับกัญชา-กัญชง” บุกตลาดโลก 8 แสนล้าน  เดินหน้าโครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรม

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวบรรยายพิเศษให้กับหลักสูตรบูรณาการศักยภาพนักธุรกิจพืชเศรษฐกิจกัญชา-กัญชง ในหัวข้อ “ทิศทางเกษตรกรรมพืชกัญชา กัญชง อาหารอนาคตพืชอนาคต (Future Food Future Crop )กุญแจไขประตูเศรษฐกิจแห่งอนาคต” ว่า ประเทศไทยมีศักยภาพเป็น”ฮับกัญชา-กัญชง”และเป็นโอกาสทองของไทยที่จะช่วงชิงตลาดกัญชาและกัญชงมูลค่า 8 แสนล้านบาท

มีการเติบโตกว่า 30%ต่อปีและอีก 4 ปีข้างหน้ามูลค่าตลาดจะเพิ่มเป็นกว่า 3ล้านล้านบาท จากการที่ประเทศต่างๆทั่วโลกซึ่งขณะนี้มีไม่น้อยกว่า 68 ประเทศที่เปลี่ยนนโยบายจากพืชเสพติดเป็นพืชเศรษฐกิจทำให้มีการส่งเสริมการปลูกกัญชาและกัญชงเพื่อการแพทย์และการค้าโดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆในเอเซียที่ปลดล็อคกัญชา

ด้วยการแก้ไขพรบ.ยาเสพติดโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ในปี2561และมีผลบังคับใช้ในปี2562ตามมาด้วยการปลดล็อคกัญชงและกระท่อมในรัฐบาลชุดนี้ ต้องขอบคุณสนช. สภาปฏิรูปทั้งสปช.และสปท. รัฐบาลชุดที่แล้วและรัฐบาลปัจจุบันที่สร้างโอกาสใหม่ให้กับประเทศของเรา

อลงกรณ์ พลบุตร

ในส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมส่งเสริมสนับสนุนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำใน 4 รูปแบบคือ เกษตรอาหาร(คนและสัตว์) เกษตรสุขภาพ เกษตรพลังงานและเกษตรท่องเที่ยวเพื่อจะสามารถใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของต้นกัญชาและกัญชง

ทั้งนี้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบนโยบายให้เร่งพัฒนาเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการเกษตรทางด้านความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกัญชาและกัญชงในทุกมิติตั้งแต่กฎหมายข้อระเบียบจนถึงสถานการณ์ตลาดและราคาทั้งในและต่างประเทศ

โดยมอบหมายศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมหรือศูนย์AIC 77 จังหวัดเช่นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรานารี มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นต้น เป็นกลไกสนับสนุนในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ

ฮับกัญชา-กัญชง

ในปีที่ผ่านมา ตลาดกัญชาโลกมีมูลค่า 6 แสนล้านบาท ตลาดกัญชง 1.6 แสนล้านบาท และปี 2562 ก่อนเกิดโควิดตลาดการท่องเที่ยวสุขภาพในประเทศไทยมีมูลค่า 4 แสนล้านบาท หากพัฒนาโฮมสเตย์ รีสอร์ตและโรงแรมในประเทศไทยเป็นฮับสุขภาพ(Cannabis Wellness Hub)ด้วยรูปแบบผสมผสานของแพทย์แผนไทย นวดไทย สปาไทยโดยใช้กัญชาและกัญชงเป็นจุดขาย

เช่นในสหรัฐอเมริกา แคนาดา สเปน อุรุกวัย นิวซีแลนด์ เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ จาไมก้า ก็จะสามารถช่วงชิงตลาดนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมายังประเทศไทยได้ไม่ยากและเป็นการฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโดยรวมอีกทางหนึ่งหลังจากวิกฤติโควิดคลี่คลาย

“การพัฒนาผลผลิตและผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงตั้งแต่การผลิตและการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ การตั้งโรงงานสกัดสารCBDและTHC จนถึงการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มในรูปของสินค้าและบริการต้องโปร่งใสเปิดกว้างต้องไม่มีการผูกขาดเพื่อให้พืชแห่งอนาคตเป็นอนาคตของทุกคนและต้องสร้างแบรนด์ เมดอินไทยแลนด์

ฮับกัญชา-กัญชง

เช่นเดนมาร์ก ซึ่งประเทศไทยมีชื่อเสียงทางด้านเกษตรอาหารและการท่องเที่ยวในระดับโลกอยู่แล้วหากต่อยอดด้วยกัญชากัญชงจะเพิ่มฐานเศรษฐกิจใหม่ให้กับเกษตรกรและทุกภาคส่วนได้เป็นอย่างดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งมือให้เร็วขึ้นให้ทันต่อโอกาสใหม่ แม้แต่ภาคเอกชนของไทยก็เดินหน้ากันเร็วมากเช่น

อิชิตันจับกระแสเปิดตัวสินค้าใหม่ “อิชิตัน กรีน แลป” ในเดือนเมษายนนี้ มีสรรพคุณผ่อนคลาย และช่วยการนอนหลับ , บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) (DOD) หลังจากก่อนหน้านี้ ผู้รับซื้อกัญชง ในโครงการรับสมัครผู้ปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์ของทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่

บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) ร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชนเพื่อปลูกกัญชง , บริษัท ไลฟ์สตาร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอาร์เอส กรุ๊ปและกลุ่มซีพีสนใจในการแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพรวมทั้งมหาวิทยาลัยต่างๆได้จับมือกับพันธมิตรเร่งงานวิจัยและพัฒนาโดยได้รับงบประมาณสนับสนุนการวิจัยจากภาคเอกชนและภาครัฐกันอย่างคึกคัก

ฮับกัญชา-กัญชง

โดยในวันที่ 7 เมษายนนี้ได้นัดประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรอาหารภายใต้คณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเพื่อพิจารณาแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมกัญชากัญชงซึ่งเป็นไปตามนโยบายเกษตรอนาคต อาหารอนาคตและโครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรมเพื่อให้ทุกกลุ่มจังหวัดมีฐานการแปรรูปอย่างเสมอภาคทั่วทั้งประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :