SHOPLINE จัดโซลูชันเจาะSMEs รับอี-คอมเมิร์ซ 2.7 แสนล้าน
‘โควิด’ หนุนอี-คอมเมิร์ซไทยโต 2.7 แสนล้าน SHOPLINE เดินเกมรุกโซลูชันบริหารจัดการร้านค้าครบวงจร หนุนผู้ประกอบการ SMEs รับมือความท้าทายครั้งใหญ่
นายชนนันท์ ปัญจทรัพย์ Country Manager จาก SHOPLINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดอี-คอมเมิร์ซในประเทศไทยนั้นเติบโตขึ้นตามเทรนด์ของตลาดโลก โดยปีที่ผ่านมาเติบโตแบบก้าวกระโดด คิดเป็นมูลค่ากว่า 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 270,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากสถาน การณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เป็นตัวเร่งให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป และหันมาช็อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ใช้ชีวิตอยู่บนออนไลน์มากขึ้น จึงเป็นแรงผลักดันให้ตลาดอี-คอมเมิร์ซเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
จากเทรนด์ดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยทั้งรายเล็ก รายใหญ่ต้องปรับกลยุทธ์ธุรกิจและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย แต่หากมองลึกไปกว่านั้นกลับพบว่ากลุ่มผู้ประกอบการจำนวนมากยังต้องเผชิญกับข้อจำกัดทางธุรกิจทั้งด้านทรัพยากร งบประมาณ และความรู้ด้านเทคโนโลยี ขณะที่ในประเทศไทยมูลค่าของธุรกิจ SMEs มีสัดส่วนคิดเป็นกว่า 40% ของจีดีพี ถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งธุรกิจ SMEs ต่างกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ และตลาดออนไลน์เหมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ ที่จะเป็นทางรอดให้กับธุรกิจเหล่านี้
SHOPLINE เป็นระบบการจัดการร้านค้าบนแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซที่จะเข้ามาช่วยธุรกิจในการบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ โดยปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ มากกว่า 250,000 ราย และเข้าถึงลูกค้ามากกว่า 200 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งให้บริการอยู่ใน 7 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย เวียดนาม จีน สิงคโปร์ และประเทศไทยซึ่งเปิดให้บริการเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ SHOPLINE ได้ทำการวิจัยตลาดและเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาโซลูชันการใช้งานอย่างต่อเนื่องกว่า 9 เดือน เพื่อแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการและนักช็อปชาวไทย
ทั้งนี้โซลูชันที่ออกแบบมาสำหรับผู้ประกอบการในประเทศไทย ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ต่างประสบปัญหามาแล้วในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ โดยแบ่งการให้บริการออกเป็น 1. E-commerce Solution หรือ ระบบการจัดการร้านค้าบนอี-คอมเมิร์ซ สำหรับธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นหรือปรับปรุงการจัดการของร้าน ครอบคลุมตั้งแต่การเปิดร้านค้าออนไลน์และระบบจัดการหลังบ้าน ได้แก่ การสร้างเว็บไซต์ ระบบการจัดการ ออร์เดอร์ จัดการสต็อกสินค้า การชำระเงิน ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า หรือ CRM เครื่องมือทางการตลาด การวิเคราะห์ข้อมูลและตัวติดตามทางการตลาดเพื่อช่วยด้าน การเพิ่มยอดขาย โดยสามารถเชื่อมกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ อาทิ Google, Facebook, LINE OA รองรับการใช้งานได้ 18 สกุลเงิน 2. Social commerce Solution หรือ ระบบการจัดการร้านค้าบนโซเชียลคอมเมิร์ซ พร้อมฟีเจอร์ Shopline Live App ตัวช่วยในการ live-streaming ขายสินค้าแบบครบวงจร
“SHOPLINE ตั้งเป้าสิ้นปีมีผู้ใช้บริการราว 3,000 ร้านค้า ซึ่งคาดว่าจะเป็นลูกค้า SMEs ประมาณ 70% นอกจากนั้นจะเป็นลูกค้าระดับองค์กรโดยเชื่อว่าการมาเปิดตลาดในครั้งนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับวงการอี-คอมเมิร์ซไทย ผลักดันให้ผู้ประกอบการในตลาดอี-คอมเมิร์ซ และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย”
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,667 หน้า 16 วันที่ 4 - 7 เมษายน 2564