ทำเลลาดพร้าว ร้อนฉ่า แพทโก้ ดันแบรนด์บ้าน ‘THER’ เขย่าตลาดแนวราบ

31 มี.ค. 2564 | 11:57 น.

คอลัมน์ : ผ่ามุมคิด

ที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยเฉพาะกลุ่มโปรดักต์บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ที่เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น ผ่านหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงปี 2563 โดยแบ่งแยกเป็นระดับราคาช่วง 7.5-10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% ราว 3,909 หน่วย กลายเป็น “ตลาดโอกาส” ให้ผู้พัฒนาอสังหาฯ เข้ามาช่วงชิงกลุ่มลูกค้าระดับบน ในพื้นที่สำคัญ กทม.-ปริมณฑล ที่เนื้อหอม กู้ง่าย-ซื้อคล่อง เนื่องด้วยมีกำลังซื้อที่ทนทานต่อสภาพเศรษฐกิจได้ดี

โดยความน่าสนใจดังกล่าว ยังเชื้อเชิญ แม้กระทั่ง กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ ที่เดิมที่ปักหมุดโครงการ เซ็กเมนต์ล่าง-กลาง ในภาคตะวันออก โซนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ อีอีซี อย่าง “แพทโก้ กรุ๊ป” ซึ่งนำโดย นายสืบวงษ์ สุขะมงคล เจ้าของวิจิตรา ดิเวลลอปเม้นท์ แบรนด์บ้านดัง “มารวย” กล้าก้าวเข้ามา ทุบงบลงทุนกว่า 650 ล้าน คว้าที่ดินกลางเมือง ทำเลสำคัญ อย่าง ลาดพร้าว ผุดเป็นโครงการหรูแห่งแรก “เธอ (THER) ลาดพร้าว 93” ในรูปแบบ “สมาร์ททาวน์โฮม” แห่งอนาคต ชูจุดแข็ง ผนึกหน่วยงานรัฐ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยพรีเมียม ไร้สายไฟลอยฟ้า เพื่อนำร่องวางแบรนด์ แข่งดุเบอร์ใหญ่ 

ลุ้นปัจจัยบวกฟื้นอสังหาฯ

โควิด-19 ทำให้ตลาดอสังหาฯ ปี 2563 ลดลงในแง่ยอดขาย โดยยอมรับว่า ทำเลสำคัญของบริษัท ในโซนอีอีซี กำลังซื้อชะลอตัวลง แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีการลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัยจากผู้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด กลุ่ม ราคา 3-5 ล้านบาท รองรับศักยภาพในอนาคต คาด เมื่อเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ต่างๆของรัฐบาล มีความคืบหน้า แล้วเสร็จ เช่น รถไฟความเร็วสูง จะช่วยให้อสังหาฯอีอีซี ดีดตัวกลับมาเบ่งบานอีกครั้ง ในช่วง 2-3 ปี

ขณะภาพรวมอสังหาฯปีนี้ มองมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ จากความชัดเจน เรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19  ผลักดันภาคการท่องเที่ยวดีขึ้น ผ่านปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 50 ล้านคนที่จะเดินทางเข้ามา เกิดการจับจ่ายใช้สอย เศรษฐกิจหมุนเวียน และเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจเอสเอ็มอี ประกอบกับปัจจัยหนุน อัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน ยังอยู่ในระดับต่ำ จะช่วยสนับสนุนผู้ที่ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้  จากภาระดอกเบี้ยที่ลดลง เช่น ในอดีต หนี้บ้าน 1 ล้านบาท ต้องผ่อนราว 7,000 บาทต่อเดือน แต่ปัจจุบัน เหลือเพียง 2,500 บาท เพิ่มกำลังซื้อได้มากขึ้น
 

แผนงานปี 64

ปัจจัยบวกเบื้องต้น ทำให้บริษัทเดินหน้าลงทุนเปิดโปรเจ็กต์ใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 2.5 พันล้านบาท โดย 4 โครงการ ยังกระจุกตัวในพื้นที่สำคัญ ได้แก่ โครงการ เดอะเทรดเชอร์โฮม ทาวน์เฮาส์ ราคาระหว่าง 2.49 ล้านบาท ในพื้นที่ บางนา-ตราด กม. 34 สมุทรปราการ พัฒนาโดยบริษัท แพทโก้ แพลตินั่ม จำกัด, โครงการ ทรอฟี บ้านโพธิ์ ทาวน์โฮม , และบ้านแฝด สไตล์อังกฤษ ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท จังหวัดฉะเชิงเทรา พัฒนาโดยบริษัท มารวย เรียลเอสเตท จำกัด, โครงการ Hotton บ้านเดี่ยวหรู สไตล์อังกฤษ ราคาเริ่มต้น 5-6 ล้านบาท จังหวัดฉะเชิงเทรา พัฒนาโดย บริษัท มารวย เรียลเอสเตท จำกัด

เนื่องจากแม้ตลาดชะลอตัว แต่เชื่อมั่นในกลยุทธ์ของบริษัท ในแง่ โปรดักต์ดี ลูกค้าซื้อแล้วบอกต่อ อีกทั้งมีโปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่อเนื่อง สะท้อนจากช่วงปีที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายรวมได้อยู่ที่ 600 ล้านบาท และยอดโอนกรรมสิทธิ์ 550 ล้านบาท 

ส่งแบรนด์ THER เจาะกทม.

นาย สืบวงษ์ ยังกล่าวต่อว่า สำหรับอีก 1 โครงการ คือ โครงการ เธอ (THER) ลาดพร้าว 93  มูลค่าโครงการกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแห่งแรก ที่บริษัทเข้ามาลงทุนในตลาดกทม. หลังจากสามารถคว้าที่ดินย่านลาดพร้าว ราว 8 ไร่ ผืนใหญ่มาได้ รวมเงินลงทุนโครงการ 650 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาเป็น 3 เฟส ในรูปแบบทาวน์โฮมหรู 3 ชั้นครึ่ง ราคาตั้งแต่ 9-14 ล้านบาท ซึ่งเดิมทีโครงการดังกล่าว มีแผนเปิดตัวตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดจากสถานการณ์โควิด และขาดแคลนแรงงาน จึงเลื่อนแผนเปิดตัวมา โดยในระยะแรกที่เปิดขายจากจำนวน 82 หลัง 1,000 ล้านบาท มียอดขายแล้ว  13 หลัง มูลค่า 150 ล้านบาท  

คาดว่าภายในสิ้นปี จะมีรายได้จากการโอนฯทาวน์โฮมให้ลูกค้าได้ 30 หลัง มูลค่า 350 ล้านบาท ช่วยผลักดันเป้าหมายยอดขายและรายได้ที่วางไว้ทั้งปี 1.3 พันล้านบาท และ 1 พันล้านบาทตามอันดับ ขณะทำเลลาดพร้าวนั้น มองมีศักยภาพสูง เนื่องจาก เป็นทำเลยุทธศาสตร์ ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT มหาดไทย มีชุมชนหนาแน่น สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม อีกทั้งมีความต้องการจากผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ทั้งจากคนในพื้นที่ และ คนต่างจังหวัดที่ชื่นชอบในทำเลนี้ เน้นเจาะกลุ่มคู่รัก และครอบครัวขยาย เป็นต้น 
 

“วางเป้าหมายแบรนด์ เธอ อย่างน้อยปีละ 1 โครงการ ทำเลกลางเมืองเป็นหลัก เบื้องต้นเล็งไว้หลายทำเล เช่น สาทร เย็นอากาศ แต่เนื่องจาก ที่ดินบางผืน มีราคาแพงเกินไป ไม่คุ้มค่าในการลงทุน ต้องพิจารณาถี่ถ้วน หลัก 1. ต้องเป็นทำเลที่มีชุมชนหนาแน่นรองรับ 2.ลูกค้ามีกำลังซื้อ และ 3. มีโครงการที่เปิดขายแล้วประสบความสำเร็จ”

ชูโครงการไร้สายไฟ

ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันตลาดแนวราบในกทม.แข่งขันรุนแรง ประกอบกับกลุ่มผู้ซื้อรุ่นใหม่ กลายเป็นลูกค้าสำคัญ โดยนอกจากโครงการจะมีจุดแข็ง แง่พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ราคาคุ้มค่าแล้ว บริษัทยังร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง ผ่านการลงทุนเพิ่มราว 15 ล้านบาท ในการเข้ามาเปลี่ยนการเดินระบบสายไฟฟ้า ลงสู่ใต้ดิน ซึ่งนับเป็นโครงการแรกในย่านลาดพร้าว

อีกทั้งยังติดตั้ง “เครื่องชาร์จ EV” รองรับยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต สำหรับ ลูกบ้านด้วย เพื่อหวังยกระดับแบรนด์ THER ไปสู่ “สมาร์ททาวน์โฮมแห่งอนาคต” คาดจะเป็นจุดขาย ที่ลูกค้าให้ความสนใจจำนวนมาก จากทัศนียภาพภายในโครงการที่แตกต่างจากโครงการทาวน์โฮมทั่วไป และมีปัญหาไฟฟ้าดับบ่อย ตอบรับรูปแบบการอยู่อาศัยยุคใหม่ในทุกแง่มุม ซึ่งโมเดลดังกล่าวจะถูกนำไปพัฒนาในโครงการต่อๆไปด้วย 

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41  ฉบับที่ 3,666 วันที่ 1 - 3 เมษายน พ.ศ. 2564