ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศบอร์ดนโยบายพีพีพี. ปลดล็อกการบินไทย เปิดทางให้ร่วมลงทุนต่อกับกิจการที่อยู่ระหว่างยื่นขอฟื้นฟูกิจการได้ หากรัฐร่วมลงทุนด้วยเกิน 25 % และเคยเป็นคู่สัญญาโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เมืองการบินอู่ตะเภา
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่อง ลักษณะของเอกชนที่ไม่สมควรให้ร่วมลงทุนในโครงการร่วมลงทุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564 ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 138 ตอนพิเศษ 69 ง วันที่ 26 มีนาคม 2564 มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ลงนาม ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้คือ ให้ยกเลิกข้อความในข้อ 3 (2) ของประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน(บอร์ดพีพีพี.) เรื่อง ลักษณะของเอกชนที่ไม่สมควรให้ร่วมลงทุนในโครงการร่วมลงทุน พ.ศ. 2562 ลงวันที่ 6 กันยายน 2562 ที่ระบุว่า "(2) เป็นบุคคลที่ยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการ หรือถูกศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ หรือถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ หรือเป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต"
แก้ไขเพิ่มเติมให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน "(2) เป็นบุคคลที่ยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการ หรือถูกศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ หรือถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ หรือเป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต เว้นแต่บุคคลที่ยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการ หรือถูกศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการนั้น เป็นนิติบุคคลที่หน่วยงานของรัฐมีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่าร้อยละยี่สิบห้า และเป็นหรือเคยเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐในกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 "
ทั้งนี้ ประกาศแก้ไขเพิ่มเติมของบอร์ดพีพีพี.ดังกล่าว ปลดล็อกให้บริษัท การบินไทย จำกัด ซึ่งอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ และเปลี่ยนสถานะจากรัฐวิสาหกิจเป็นวิสาหกิจเอกชน จะยังคงสามารถร่วมลงทุนในโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน(พีพีพี.)ได้ต่อไป อาทิ โครงการพัฒนาเมืองการบินอู่ตะเภา เป็นต้น