คืนนี้กทม.ชวนคนกรุงฯลดโลกร้อน จัดกิจกรรมปิดไฟ 1 ชม.

27 มี.ค. 2564 | 01:47 น.

วันนี้ กทม.ชวนคนกรุงร่วมกิจกรรม“ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2021)"เริ่มทุ่มตรง และร่วมปิดไฟตั้งแต่ 20.30 – 21.30 น.

วันที่ 27 มี.ค.64 ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป กทม.ได้จับมือร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF ประเทศไทย และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม“ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2021)”ภายใต้แนวคิด Speak Up For Nature หรือปลุกพลังเพื่อโลกที่เรารัก ยืนหยัดเพื่อธรรมชาติ พร้อมร่วมกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ณ บริเวณลานสแควร์ D ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน


นอกเหนือจากกิจกรรมที่จัดหน้าห้างฯแล้ว ในส่วนของสถานที่ปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ในปีนี้ ประกอบด้วย 5 สถานที่หลัก ได้แก่


1)วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง 


2)วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

 
3)เสาชิงช้า

 
4)สะพานพระราม 8

 
5)ภูเขาทอง (วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร)


อีกทั้งยังมีพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต ภาคีเครือข่าย ผู้ประกอบการเจ้าของอาคาร/สถานที่ ยังร่วมปิดไฟเชิงสัญลักษณ์อีก 126 แห่ง และเจ้าของอาคารบ้านเรือนในถนน 100 สาย จะพร้อมใจกันร่วมปิดไฟและลดใช้พลังงาน
 

ประชาชนคนกรุงเทพฯที่สนใจร่วมกิจกรรม สามารถปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน ในวันที่ 27 มี.ค.64 ตั้งแต่เวลา 20.30 – 21.30 น. เป็นเวลา 1 ชั่วโมง หรือมากกว่า พร้อมกันนั้นยังขอเชิญชวนร่วมแชร์การมีส่วนร่วมกิจกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยการติดแฮชแท็ก #connect2earth #SpeakUpForNature #BangkokSustainability และ #ปิดเพื่อโลกเปลี่ยนเพื่ออนาคต

ชวนคนกรุงร่วมกิจกรรมปิดไฟ1ชั่วโมงลดโลกร้อน

สำหรับการ“ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน" ถือเป็นกิจกรรมที่กรุงเทพมหานครได้จัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา  โดยร่วมมือกับองค์กร WWF ประเทศไทย และภาคีเครือข่าย ร่วมจัดกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour)” พร้อมกับ 190 ประเทศ 7,000 เมืองทั่วโลก ปิดไฟที่ไม่จำเป็น เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 20.30 - 21.30 น. 


ซึ่งผลการจัดกิจกรรมในปี 2563 พื้นที่กรุงเทพฯ สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ 2,482 เมกกะวัตต์ เท่ากับลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1,219 ตัน และคิดเป็นมูลค่า 10.15 ล้านบาท และจากการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2551 - 2563 สามารถลดการใช้กระแสไฟฟ้าได้ 22,369 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าไฟฟ้าที่ลดลง 80.97 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 12,227 ตัน