ยสท.เตรียมเปิดลงทะเบียนปลูกกัญชา หลังสงกรานต์นี้

23 มี.ค. 2564 | 09:41 น.

การยาสูบฯ ชี้ รอกฤษฎีกา และ สคร. ตีความอำนาจ ยสท. เดินหน้าปลูกกัญชาเชิงพาณิชย์ คาดชัดเจนสิ้นเดือนนี้ พร้อมเปิดลงทะเบียนปลูกกัญชาได้หลังสงกรานต์

นายภาณุพล  รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.)​เปิดเผยถึงความคืบหน้าการส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบในปลูกพืชกัญชาเสริม ว่าขณะนี้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)​ และกฤษฎีกา อยู่ระหว่างตีความขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ ยสท. ว่าจะสามารถดำเนินการได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ หลังจากนั้นจะมีการออกเป็นกฎกระทรวงเพื่อบังคับใช้ต่อไป

โดยผู้ว่า ยสท. คาดว่าช่วงหลังสงกรานต์  หรือในช่วงปลายเดือนเมษายน 2564 นี้ จะเริ่มเปิดให้เกษตรกรที่เป็นเครือข่ายปลูกใบยาสูบของ ยสท. กว่า 13,500 ครัวเรือน ลงทะเบียนเข้าร่วมในการปลูกพืชกัญชาเป็นพืชเสริมได้ เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายของ ยสท. ทำให้โรงงานยาสูบรับซื้อใบยาสูบจากเกษตรลดลงจากเดิม 28 ล้านกิโลกรัมต่อปี เหลือ 13 ล้านกิโลกรัมต่อปี  ส่งผลกระทบต่อรายได้เกษตรกรหายไปประมาณ 50% ซึ่งการปรับพื้นที่มาปลูกพืชกัญชาเสริม จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น จากเดิมมีรายได้จากการปลูกใบยาสูบจะอยู่ที่ 23,000 – 24,000 บาทต่อไร่ หากปลูกพืชกัญชาคาดว่าจะมีรายได้ขั้นต่ำ 70,000 – 80,000 บาทต่อไร่ ซึ่งคาดว่าจะมีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 50% จากจำนวนเกษตรกรในเครือข่ายฯ

“การปลูกกัญชาเป็นพืชเสริมจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ยาสูบก็ต้องปลูกต่อไปยังเป็นพืชหลัก และขอย้ำว่า ยสท. ไม่เคยมีแนวคิดนำกัญชากัญชงไปใช้ในเรื่องของบุหรี่ เพราะอาจเป็นการสนับสนุนการสูบบุหรี่มากขึ้น แต่จะนำไปใช้ในเรื่องทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมเท่านั้น  ”  ผู้ว่าการ ยสท. กล่าว

ภาณุพล  รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการ ยสท.

อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ ยสท. ได้ดำเนินการคู่ขนาน ทั้งการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับสมาคมและเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ การส่งทีมวิจัยเพื่อตรวจดูคุณภาพของดินในพื้นที่ของเกษตรกรในเครือข่าย  รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นเพื่อกำหนดพื้นที่เพาะปลูก เกณฑ์คัดเลือกเกษตรกร และแนวทางสนับสนุน เช่นแหล่งเงินทุน  ซึ่งในสัปดาห์หน้า ยสท.จะหารือร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เพื่อหาแนวทางสนับสนุนเงินทุนให้กับเกษตรกรที่ต้องการปรับพื้นที่มาปลูกพืชกัญชา  

“ต้องทำให้เกษตรกรเชื่อมั่น ยสท. ต้องแม่น ทั้งระยะเวลาการปลูก เมื่อปลูกแล้ว นำผลผลิตไปขาย ราคาเป็นอย่างไร  ต้องรับประกันราคา อาจจะมีเรื่องฝนฟ้าอากาศ เรื่องภาวะตลาด แต่ความผิดพลาดไม่ควรเกิน 10%-15% “ผู้ว่าการ ยสท. กล่าว

ขณะที่ความคืบหน้าการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตบุหรี่  ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมสรรพสามิต ซึ่ง ยสท. ได้ส่งเสนอความคิดเห็นไปแล้ว ว่า การปรับโครงสร้างภาษี จะต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่อเกษตรกร ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งระบบ และรายได้สรรพสามิต ซึ่งจากโครงสร้างภาษีที่ใช้ปัจจุบันซึ่งมีอัตราภาษีสูง ไม่ทำให้คนสูบบุหรี่ลดลง แต่ยังส่งผลให้มีการลักลอบขนบุหรี่เถื่อนเข้ามากขึ้น รวมทั้งยังพบว่า มีการหันไปสูบยาเส้นมากขึ้น จาก12,000 ล้านมวนในปี2559  เป็น 34,000 ล้านมวนในปี2563 อย่างไรก็ตาม ยสท. ยังมีแนวคิดที่จะนำยาเส้น เข้ามากำกับดูแล เนื่องจากขณะนี้ไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปควบคุมโดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพ ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาข้อกฎหมายและหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง