“จีน-อินเดีย”หันเจรจาแก้ไขข้อพิพาทด้านชายแดน

22 มี.ค. 2564 | 12:42 น.

“จีน-อินเดีย”หัน“พบกันครึ่ง”เจรจาแก้ไขข้อพิพาทด้านพรมแดน ย้ำไม่เป็นภัยคุกคามต่อกันและให้โอกาสในการพัฒนาซึ่งกันและกัน เพื่อผลประโยชน์ของกันและกันมาก

วันนี้(๒๒ มี.ค.๖๔) พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลกรณีที่ นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ตอบคำถามจากนักข่าวจีนและต่างประเทศเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของจีนและความสัมพันธ์กับต่างประเทศ เมื่อวันที่ ๗ มี.ค.๖๔ ในระหว่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติชุดที่ ๑๓ ครั้งที่ ๔ ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง ตอน ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอินเดีย ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ 

๑. นายหวัง อี้ กล่าวว่า สาระสำคัญของความสัมพันธ์จีน – อินเดีย คือ การที่สองประเทศกำลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนและพัฒนาและฟื้นฟูร่วมกันได้อย่างไร เนื่องจากอารยธรรมโบราณสองแห่งอาศัยอยู่ติดกันและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ๒ แห่งที่มีประชากร ๑ พันล้านคน ในโลกปัจจุบัน จีนและอินเดียมีความสนใจร่วมกันอย่างกว้างขวางและมีศักยภาพในการร่วมมือกันอย่างมาก  

ทั้งสองฝ่ายร่วมกันปฏิบัติภารกิจทางประวัติศาสตร์ในการปรับปรุงการดำรงชีวิตของผู้คน และเร่งการพัฒนาที่บ้าน และดำเนินความคาดหวังร่วมกันในการปกป้องผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศกำลังพัฒนา และการพัฒนากระบวนการหลายขั้วในโลก ความคล้ายคลึงกันของเงื่อนไขแห่งชาติของจีนและอินเดียยังกำหนดว่า ทั้งสองฝ่ายมีจุดยืนที่เหมือนกัน หรือคล้ายคลึงกันในหลายประเด็นหลัก ดังนั้น จีนและอินเดียจึงเป็นเพื่อนและหุ้นส่วน ไม่ใช่ภัยคุกคามและฝ่ายตรงข้าม 

 

๒. นายหวัง อี้ ชี้ให้เห็นว่า ทั้งสองฝ่ายควรบรรลุความสำเร็จของกันและ กัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันและเสริมสร้างความร่วมมือ แทนที่จะกีดกันซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ ข้อพิพาทเรื่องพรมแดนเป็นปัญหาที่หลงเหลือมาจากประวัติศาสตร์ไม่ใช่ความสัมพันธ์จีน-อินเดีย โดยทั้งหมดควรได้รับการจัดการและควบคุมอย่างเหมาะสมและในเวลาเดียวกัน ด้วยความร่วมมือที่มากขึ้นและเข้มแข็งขึ้น เพื่อสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยในการแก้ไขปัญหาชายแดน 

ข้อดีของความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนเมื่อปีที่แล้ว มีความชัดเจนมาก และข้อดีข้อเสียก็ชัดเจน รวมทั้งข้อเท็จจริงได้พิสูจน์อีกครั้งว่า การสร้างการเผชิญหน้าเพียงฝ่ายเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และการกลับสู่การเจรจาสันติภาพเป็นวิธีที่ถูกต้อง 

จุดยืนของจีนในการแก้ไขข้อพิพาทด้านพรมแดนผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือมีความชัดเจน ตลอดจนเจตจำนงในการปกป้องสิทธิอธิปไตยและผลประโยชน์ของตนก็มั่นคงเช่นกัน ทั้งสองฝ่ายควรรวบรวมฉันทามติที่มีอยู่เสริมสร้างการเจรจาและการสื่อสาร รวมทั้งปรับปรุงกลไกการจัดการและการควบคุม ตลอดจนร่วมกันรักษาสันติภาพและความสงบสุขในพื้นที่ชายแดน 
  

บทสรุป นายหวัง อี้ เน้นย้ำว่า ในปีใหม่นี้หวังว่าอินเดียและจีนจะได้พบกันครึ่งทางและดำเนินการตามมติเอกฉันท์ของผู้นำทั้งสองประเทศอย่างจริงจังว่า "ไม่เป็นภัยคุกคามต่อกันและให้โอกาสในการพัฒนาซึ่งกันและกัน" อันจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ของกันและกันมากขึ้นต่อชาวจีนและชาวอินเดีย ๒.๗ พันล้านคน เพื่อสร้างผลงานให้มากขึ้นในการถือกำเนิดของศตวรรษแห่งเอเชีย