หมอธีระแนะปฏิรูปธุรกิจค้าขาย-ท่องเที่ยว-เดินทางและบริการรับมือโควิด-19 ระบาด

22 มี.ค. 2564 | 02:05 น.

หมอธีระแนะปฏิรูปธุรกิจค้าขาย-ท่องเที่ยว-เดินทางและบริการรับมือโควิด-19 ระบาด พร้อมขยายขีดความสามารถในการตรวจคัดกรอง

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า สถานการณ์ทั่วโลก 22 มีนาคม 2564...

ระบาดระลอกสามลามรุนแรงทั่วโลก ยกเว้นบางประเทศที่เพิ่งเป็นระลอกสอง แต่ดูแนวโน้มหนักไม่แพ้กัน

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 417,513 คน รวมแล้วตอนนี้ 123,822,169 คน ตายเพิ่มอีก 5,888 คน ยอดตายรวม 2,726,879 คน

อเมริกา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 40,366 คน รวม 30,517,997 คน ตายเพิ่มอีก 495 คน ยอดตายรวม 555,289 คน

บราซิล ติดเพิ่ม 47,774 คน รวม 11,998,233 คน วันเดียวตายเพิ่มสูงถึง 1,290 คน มากที่สุดในโลก ขณะนี้ยอดเสียชีวิตรวม 294,042 คน

อินเดีย เข้าสู่การระบาดระลอกสองเต็มตัว การติดเชื้อไต่ระดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ติดเพิ่ม 47,009 คน รวม 11,645,719 คน

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์

รัสเซีย ติดเพิ่ม 9,299 คน รวม 4,456,869 คน

สหราชอาณาจักร ติดเพิ่มอีก 5,312 คน รวม 4,296,583 คน

อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ตุรกี และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่นต่อวัน

แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น

แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย แนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้นชัดเจน ส่วนใหญ่หลักร้อยถึงพันกว่า ทั้งนอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ สถานการณ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ในขณะที่แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักพัน

เกาหลีใต้ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน สิงคโปร์ ไทย และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

...มาถึงจุดนี้ คาดว่าธุรกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกคงยากมากที่จะฟื้นตัว จากธรรมชาติของการระบาดทั่วโลกในลักษณะนี้ อย่างน้อยในสามไตรมาสแรกของปี ไม่น่าจะมีโอกาสที่จะเดินทางระหว่างกันอย่างปลอดภัยไร้กังวลได้ แม้จะมีบางประเทศพยายามจะคุยกันและผลักดันทั้งในเรื่องวัคซีนพาสปอร์ต และการลดหรือไม่กักตัวระหว่างกัน แต่ตามหลักวิชาการแล้วเชื่อว่าถ้าหุนหันพลันแล่นดำเนินการไปตามนั้น จะมีโอกาสสูงที่จะเกิดการระบาดซ้ำอย่างรุนแรงและเกิดผลกระทบหนักหน่วงตามมาครับ

ปัญหาการระบาดซ้ำทั้งระลอกสองและระลอกสามครั้งนี้ มาจากความไม่สมดุลของการดำเนินนโยบายของหลายต่อหลายประเทศ ที่คิดว่ารู้จักช่ำชองกับโรคระบาดดีจากครั้งก่อน เอาอยู่ จัดการได้ คนเงินของหยูกยาและวัคซีนเพียงพอ โดยหารู้ไม่ว่าเป็นความประมาทอย่างร้ายกาจ จนนำมาสู่การตัดสินใจใช้มาตรการหน่อมแน้ม จนมารู้ตัวอีกทีก็สายเกินไป ระบาดกันกระจุยกระจายจนทำให้ดินแดนของตนกลายเป็นแดนดงโรคไประยะยาว บางประเทศหวนตัดสินใจกลับมาใช้การล็อคดาวน์หลังจากระบาดหนักมากจนเอาไม่อยู่ แต่ก็พบว่าผลที่ได้นั้นไม่สามารถตัดวงจรของโรคได้ เพราะเลือกใช้เมื่อสายเกินไป ล็อคดาวน์จะได้ผลดีเมื่อตัดสินใจทำตอนการระบาดเป็นขาขึ้นไม่มากนัก ยังไม่เข้าสู่ระดับทวีคูณรุนแรง จึงเข้าทำนองสุภาษิตที่เราคุ้นเคยกันดีคือ "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย"

ที่หนักกว่าปีที่แล้วคือ การระบาดซ้ำที่กำลังประสบกันอยู่นั้น มีสายพันธุ์ไวรัสที่มีการกลายพันธุ์และระบาดกระจายแบบหลากหลายมากขึ้น โดยไวรัสนั้นมีอัตราการแพร่เร็วกว่าสายพันธุ์เดิม และบางสายพันธุ์นั้นก็พบว่าดื้อต่อการรักษาทั้งโดยโมโนโคลนัลแอนติบอดี้ พลาสม่า และต่อภูมิคุ้มกันจากวัคซีนที่ใช้กันอยู่ เช่น สายพันธุ์แอฟริกาใต้ เป็นต้น

สำหรับสถานการณ์ภายใน ดูแล้วลำบากครับ หากยังใช้กลไกและแนวทางเดิมในการจัดการ เพราะไล่ตาม มากกว่าจะสามารถควบคุมได้จริง ดังจะเห็นได้จากการปะทุจุดแล้วจุดเล่าต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการปะทุในแหล่งชุมชนเมืองทั้งสิ้น ซึ่งมีความหนาแน่นของประชากรสูง และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั้งประเทศ ดังนั้นการกระจายของผู้ติดเชื้อจึงเชื่อขนมกินได้ว่ามีโอกาสแพร่ไปยังที่อื่นได้ และไม่มีทางที่จะติดตามได้โดยง่าย

ยิ่งผนวกกับใกล้หน้าเทศกาล และกำลังจะเริ่มลดวันกักตัวของผู้เดินทางเข้ามาในประเทศ ทำให้บวกลบคูณหาร ได้ผลออกมาคือ อาจทำให้มีการระบาดซ้ำได้

วัคซีนที่มีนั้นยังมีจำนวนชนิดที่จำกัด ปริมาณจำกัด สรรพคุณมีความแตกต่างจากวัคซีนที่ประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ใช้กัน โ ดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความสามารถในการป้องกันการติดเชื้อ ความสามารถในการสู้กับสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ และความชัดเจนและตรวจสอบได้ของข้อมูลการวิจัยและข้อมูลด้านความปลอดภัย ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนต้องได้รับการสนับสนุนให้นำวัคซีนชนิดอื่นๆ เข้ามาเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม มิใช่เอื้อนเอ่ยเป็นเสียง แต่แท้จริงแล้วยังไม่เห็นอะไรที่จับต้องได้จริง

              สิ่งที่ควรเร่งทำนอกจากที่กล่าวมาข้างต้นคือ การขยายขีดความสามารถในการตรวจคัดกรองโรคให้ครอบคลุมทั่วถึง และประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้ฟรี โดยไม่ติดเกณฑ์เรื่องอาการหรืออื่นๆ รวมถึงการประสานงานกับกลไกภาคส่วนต่างๆ ในสังคม ให้แวดวงธุรกิจอุตสาหกรรมเล็กกลางใหญ่ดำเนินการตรวจคัดกรองโรคในบุคลากรเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง และปฏิรูประบบธุรกิจอุตสาหกรรมค้าขาย ท่องเที่ยว เดินทาง และบริการต่างๆ ให้มีรูปแบบการดำเนินการถาวรที่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก

              ณ จุดนี้ สิ่งที่ประชาชนทำได้คือ การช่วยกันป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด เพื่อประคับประคองสถานการณ์ให้ลดทอนความรุนแรงของการระบาดลง และเตรียมรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากนโยบายหรือมาตรการต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร ลดละเลี่ยงการตะลอนท่องเที่ยวพบปะสังสรรค์โดยไม่จำเป็น เลี่ยงการเดินทางไปที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร และคอยสังเกตอาการตนเอง หากไม่สบาย ควรหยุดเรียนหยุดงานแล้วรีบไปตรวจรักษาครับ

              ด้วยรักและปรารถนาดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :