เราชนะ-คนละครึ่ง ดันดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรมฟื้นตัว

18 มี.ค. 2564 | 05:25 น.

เราชนะ-คนละครึ่ง ดันดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรมฟื้นตัว วอนรัฐเร่งฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงสูงและอนุญาตเอกชนนำเข้าวัคซีน

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 64 ว่า อยู่ที่ระดับ 85.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 83.5 ในเดือนมกราคม 64 โดยค่าดัชนีฯ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากภาคการผลิตกลับมาขยายตัวตามอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 (Covid-19) ของภาครัฐ อาทิ

การอนุญาตให้สถานศึกษาเปิดเรียนตามปกติ การขยายเวลานั่งรับประทานในร้านอาหารถึง 23.00 น. รวมทั้งอนุญาตให้กิจการบางประเภทเปิดดำเนินการได้ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ มาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ รวมทั้งการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศอย่างต่อเนื่อง ในด้านการส่งออกมี คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า รวมทั้งความคืบหน้าในการกระจายวัคซีนโควิด-19 ในประเทศต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจการค้าโลกมีทิศทางที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการส่งออกยังคงประสบปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องรวมทั้งอัตราค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับสูงส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้น ขณะที่การแข็งค่าของเงินบาทมากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคบั่นทอนความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของผู้ส่งออก

ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนกุมภาพันธืปรับตัวดีขึ้น

ทั้งนี้ จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,403 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ 55.4% ,ราคาน้ำมัน 47.1% และสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ 42.5% ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความกังวลลดลง ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจโลก 68.5% ,และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 35.1%

สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 92.0 จากระดับ 91.1 ในเดือนมกราคม 2564 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งความคืบหน้าในการจัดหาและกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนในประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและภาค การผลิตขยายตัว รวมทั้งประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อาทิ สหรัฐฯ และจีน มีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

นายสุพันธุ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ต้องการนำเสนอให้ภาครัฐ เร่งรัดการฉีดวัคซีน COVID-19 ให้เป็นไปตามแผนโดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงอนุญาตให้เอกชนนำเข้าวัคซีน COVID-19 ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย.แล้ว เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระภาครัฐและช่วยให้การฉีดวัคซีนเร็วขึ้น

ภาครัฐควรดำเนินมาตรการฟื้นฟูผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องหลังจากมีการฉีดวัคซีน COVID-19 ตามแผนให้แก่ประชาชนแล้ว ,เร่งแก้ไขปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ของผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม และเร่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังเป็นปัญหาต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก