พปชร.แบะท่า"แก้รัฐธรรมนูญ"รายมาตรา

17 มี.ค. 2564 | 09:00 น.

“บิ๊กป้อม” แบะท่าแก้รัฐธรรมนูญ “รายมาตรา” ขณะพปชร.เล็ง “งดออกเสียง” โหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3  “จุรินทร์” ยํ้าจุดยืน ปชป.ต้องการให้ รธน.เป็นประชาธิปไตยที่สุด

ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า “รัฐสภามีหน้าที่และอํานาจจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอํานาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทําร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบหรือไม่ กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง”

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แสดงท่าทีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญบอกไว้ หากจะสถาปนาทั้งฉบับต้องไปถามประชาชนก่อนว่าให้แก้หรือเปล่า แต่การไปแก้ไขแล้วตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) อย่างนี้มันทำไม่ได้ 

ส่วนจะเปลี่ยนแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราหรือไม่ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตอบว่า “ได้เลย เพราะเป็นเรื่องของรัฐสภาอยู่แล้ว และในการแก้รายมาตรารัฐสภาก็แก้ได้อยู่แล้ว” 

เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังยืนยันจะเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญต่อไป พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็แล้วแต่พรรคร่วม เพราะเป็นเรื่องของแต่ละพรรคจะพิจารณา เพราะจะไปเดินหน้าได้อย่างไร การแก้ไขต้องตั้งส.ส.ร.เพื่อแก้ไขทั้งฉบับจะไปทำได้อย่างไร 

 

พปชร.แบะท่า"แก้รัฐธรรมนูญ"รายมาตรา

 

แก้รธน.เรื่องของสภา

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ในส่วนของนายกรัฐมนตรีถือ ว่าทำหน้าที่ครบถ้วนแล้ว คือการนำเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร

“ส่วนจะแก้หรือไม่แก้ เป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่หากยังมีปัญหาเกิดขึ้นก็ว่ากันไปที่ฝ่ายตุลาการ ยืนยันว่ารัฐบาลมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนจะแก้อย่างไร ไปหาวิธีการมา อย่าอ้างว่าผมมีคำสั่งไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญ เพราะไม่สามารถสั่งใครได้” นายกรัฐมนตรี ระบุ

 

พปชร.ส่องดออกเสียง

ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ ต่อการโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระ 3 ระหว่างวันที่ 17-18 มีนาคม 2564 นั้น น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังการประชุม ส.ส. ของพรรคว่า “ที่ประชุมได้พูดคุยถึงความเป็นไปได้ ในกรณีที่หากมีการลงมติ เพื่อเป็นการเคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและ ดำเนินการให้ถูกต้อง ไม่ให้ขัดกับหลักกฎหมาย พรรคพลังประชารัฐอาจจะของดออกเสียง” 

พร้อมระบุว่า คำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ระบุไว้ว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ด้วยวิธีการร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ให้มีหมวด 15/1 ย่อมมีผลเป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 อันเป็นการแก้ไขหลักการสำคัญ ที่ผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญดั้งเดิม ต้องการปกป้องคุ้มครองไว้ หากรัฐสภาต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องจัดให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญออกเสียงประชามติเสียก่อน ว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ทำให้เราต้องมาพิจารณาในประเด็นนี้อย่างรอบคอบ

โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ยังยืนยันว่า พรรคพร้อมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ก็ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย จะเห็นได้ว่าจากที่ผ่านมาแม้แต่ร่างรัฐธรรมนูญที่ได้เสนอเข้าสู่สภา ก็เสนอโดย นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาล 

ดังนั้น ในเมื่อขั้นตอนดำเนินมาถึงขั้นนี้ และมีคำวินิจฉัยกลางออกมา ก็ต้องเคารพตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยด้วย ทั้งนี้ ก็ต้องพิจารณาต่อไปว่า จะดำเนินการอย่างไรในส่วนของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้กระบวนการต่างๆ สมบูรณ์และถูกต้องตามหลักกฎหมาย

 

ปชป.ยํ้าจุดยืนแก้รธน.

ส่วนท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ยํ้าว่า พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันจุดยืนเดิมที่ต้องการทำให้รัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย แต่คำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกันว่า จะต้องมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร  ทั้งความเห็นของนักวิชาการ และสมาชิกรัฐสภา ต่างก็มีการถกเถียงกัน มีความเห็นต่างกัน 

ตรงนี้จึงเป็นโจทย์สำคัญที่พรรคประชาธิปัตย์ ต้องมีการหารือกัน ซึ่งในการประชุมส.ส. ของพรรค ได้เชิญฝ่ายกฎหมายมาให้ความเห็นว่า พรรคจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร โดยยึดจุดยืนเดิมที่อยากเห็นรัฐธรรมนูญได้รับการแก้ไขไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น แต่ต้องหารือในส่วนของวิธีการว่าจะทำอย่างไร”

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้เป็นอำนาจของรัฐสภาซึ่งก็มีความชัดเจน แต่การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ถือว่าเป็นการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือไม่ ซึ่งหากเป็นการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับก็ให้ไปทำประชามติ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเป็นไป ในทิศทางใด หมายถึงต้องทำประชามติย้อนหลังตั้งแต่วาระ 1 หรือหลังจากที่รัฐธรรมนูญพ้นวาระ 3 ไปแล้ว แต่ทำประชามติก่อนการตั้ง ส.ส.ร. ตรงนี้ยังมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกันของฝ่ายต่างๆ

“ประชาธิปัตย์ยืนยันที่จะเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย และจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้น และเดินหน้าต่อไปได้” 

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,662 หน้า 12 วันที่ 18 - 20 มีนาคม 2564

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :