"ลี การ์เดนส์ พลาซ่า"สร้างโมเดลธุรกิจใหม่จากพิษโควิด-19 ต่อยอดครัวอาหารจีนที่ลือชื่อของโรงแรม สู่"โต๊ะจีนเดลิเวอรี" เป็นแหล่งรายได้ใหม่ของกิจการ
นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 โรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า กว่า 400 ห้อง กลางเมืองหาดใหญ่ ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน คือ มาเลเซีย ปิดประเทศ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของหาดใหญ่ หายไป ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวหลายแห่งต้องปิดกิจการชั่วคราว เลิกจ้างพนักงาน และรอวันทุกอย่างจะคลี่คลายกลับมาอีกครั้ง
แต่สำหรับ “โรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า” นับเป็นจุดเริ่มต้น ของการสร้างช่องทางหารายได้ใหม่ของกิจการ ที่ผู้บริหารให้นโยบายเมื่อต้องเผชิญวิกฤติที่ไม่ทันตั้งตัวครั้งนี้ว่า จะต้องรักษาพนักงานทุกคนไว้ทั้งหมด โดยจะไม่มีการเลิกจ้าง
ลภัสรดา ดวงจันทร์ ผู้จัดการฝ่ายขาย และ ยุคลธร วชิระพันธ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายขาย เป็นผู้รับโจทย์มาจากผู้บริหาร และกำหนดทิศทางการดำเนินการเพื่อหารายได้จาก “อาหารเดลิเวอรี่”
ลภัสรดา เล่าว่า จุดเริ่มต้นมาจากการทำข้าวกล่อง เพื่อมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงต่อสู้กับการระบาดเชื้อโควิด-19 และแจกให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากมาตรการเข้มเพื่อควบคุมการระบาด โดยร้านจานเดียว “บ้านสยาม” ในเครือโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า
หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ปรากฏว่าส่วนราชการ พนักงานบริษัท โรงงาน ตลอดจนครัวเรือนทั่วไป สั่งข้าวกล่องทางโรงแรมเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าผลตอบรับดีเกินคาด
ยุคลธร กล่าวเสริมว่า หลังจากผลตอบรับ “ข้าวกล่องเดลิเวอรรี่” ดีเกินคาด จนกระทั่งมีลูกค้าที่สั่งประจำ ทางผู้บริหารก็เลยคิดว่า ด้วยศักยภาพและจุดแข็ง “อาหารจีน” ของโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า เป็นที่รู้จักและยอมรับของลูกค้าอยู่แล้ว น่าจะพัฒนาต่อยอดเช่นเดียวกับข้าวกล่องได้
ทำให้เดือนธันวาคม 2563 ได้ข้อสรุปว่า โรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า เปิดไลน์ธุรกิจใหม่ “อาหารจีนเดลิเวอรี่” โดยเริ่มจากเปิดรับจอง “เป็ดไหว้เจ้า” ประเดิมเป็นเมนูแรก เพื่อรองรับเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2564
จากนั้นจึงประชุมพนักงาน เพื่อระดมประชาสัมพันธ์ แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งช่องทางโซเชียลมีเดีย และเดินแจกใบปลิวตามบ้านในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ปรากฏว่ามีผลตอบรับอย่างดี จากเดิมที่ตั้งเป้าว่าจะได้ยอดประมาณ 100 ตัว ปรากฏว่ายอดจองทะลุ 300 กว่าตัว
ลภัสรดา กล่าวว่า ประการสำคัญลูกค้าไม่ได้สั่งจองแค่เป็ดเพียงเมนูเดียว แต่ยังสั่งอาหารจีนเมนูอื่น ๆ เพื่อนำไปไหว้ และรับประทานกันในครอบครัวในช่วงตรุษจีน จากความเชื่อมั่นโรงแรมที่มีจุดแข็งเรื่องอาหารจีน
“เริ่มจากแค่เป็ดไหว้เจ้าเมนูเดียว ลูกค้าสั่งเพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ จนกลายเป็น 25 เมนู ครอบคลุมอาหารจีนหลากหลาย หรือจะเรียกว่า โต๊ะจีนเดลิเวอรี่ ก็ได้ เพราะมีครบถ้วนเหมือนโต๊ะจีนตามภัตตาคารจีนทั่วไป”
เมื่อผลตอบรับดีเกินคาดและเพิ่มเป็น 25 เมนู อย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน จึงประชุมพนักงานทุกแผนก เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งการผลิต บรรจุภัณฑ์และการจัดส่ง
“แค่กินได้ไม่พอ แต่กินแล้วต้องว้าว เพราะหัวใจของอาหารจีนก็คือ ความสดใหม่ทุกเมนู จนถึงขนาดต้องตั้งทีมวิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ขึ้นมารองรับ พร้อมทั้งจัดอบรม “ฟู้ดไรเดอร์” เพื่อจัดส่งอาหารให้ถึงมือลูกค้าอย่างมีคุณภาพตามที่กำหนด”
ปีนี้ทางโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า ได้กำหนดแผนการทำตลาด “โต๊ะจีนเดลิเวอรี่” ในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ไว้ ตลอด ทั้งปี 2564 จำนวน 8 เทศกาล ที่กำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้คือเทศกาลเช็งเม้ง
แต่สำหรับใครที่ต้องการรับประทานอาหารจีน โต๊ะจีน แม้จะไม่ใช่ช่วงเทศกาลสำคัญ ก็สามารถสั่ง “โต๊ะจีนเดลิเวอรี่” ได้ทุกวัน โดยสามารถกำหนดวันและเวลาให้จัดส่งได้ตามนัดหมาย
“แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลาย และการเดินทางทั้งในและต่างประเทศจะผ่อนคลาย ทางโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า จะยังคงไว้แผนก “อาหารเดลิเวอรี่” ไว้ เพราะนี่คือแผนกและช่องทางสร้างรายได้ที่สำคัญอีกทางหนึ่ง”
ยุคลธร ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกเหนือจากการให้บริการจัดส่งอาหารจีนและข้าวกล่องแล้ว ในขณะนี้ทางโรงแรมฯยังได้ปรับใช้พื้นที่ลานด้านข้างโรงแรมเป็น “โรงแรมสตรีทฟู้ด” ริมทาง กลางเมือง บริการจำหน่ายอาหารคุณภาพระดับโรงแรม แต่ราคาร้านอาหารริมทางหลากหลายเมนู ตั้งแต่เวลา 4 โมงเย็นไปจนถึง 4 ทุ่ม ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน
รวมถึงการเปิดลานด้านหน้าโรงแรมเป็นพื้นที่กิจกรรม ปลุกบรรยากาศที่เงียบเหงาจากพิษโควิด-19 ให้เมืองกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง
หน้า 17 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,659 วันที่ 7 - 10 มีนาคม พ.ศ. 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง