หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 5 มีนาคม 2564
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ตัดสินใจคงกำลังการผลิตไปจนถึงเดือน เม.ย. 64 เนื่องจากความไม่แน่นอนของอุปสงค์ที่ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ซาอุดีอาระเบียยังสมัครใจที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่อไปอีก 1 เดือนในเดือน เม.ย.
+ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ว่าการฉีดวัคซีนไวรัสโควิด-19 จะช่วยฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจโลกให้ดีขึ้น นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงการณ์ว่าวัคซีนไวรัสโควิด-19 จะเพียงพอสำหรับประชาชนทุกคนภายในเดือนพ.ค.นี้ หลังจากที่ Merck & Co และ J&J ตกลงร่วมมือกันผลิตวัคซีน โดยคาดว่าจะทำให้สามารถเร่งการส่งมอบวัคซีน 100 ล้านโดสได้ภายในเวลาประมาณหนึ่งเดือน
+ กลุ่มโอเปกคาดว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 96 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคปรับตัวสูงขึ้น จากการส่งออกน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นของจีน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ที่ลดลงจากจีน อีกทั้งยังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกจากจีนและอินเดียที่เพิ่มมากขึ้น
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค) ขานรับซาอุดีอาระเบียสมัครใจที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วันต่อไปอีก 1 เดือน ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันที่ระดับเดิมไปจนถึงเดือนเม.ย.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 2.55 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 63.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 2563
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 2.67 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 66.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. 2564