GPSC ปั้นแบตเตอรี่ เป็นธุรกิจหลัก ยัน 2 ปี กำลังผลิตเพิ่มเป็น 1,000 MWh 

03 มี.ค. 2564 | 10:10 น.

GPSC  ดันผลิตแบตเตอรี่ เป็นธุรกิจหลักในอนาคต หลังพัฒนานวัตกรรม จนขึ้นโรงงานนำร่อง พร้อมผลิตได้ในเกินไตรมาส 2 ตั้งเป้าอีก 2 ปีเพิ่มกำลังผลิตเป็น 1,000 MWh

GPSC  ดันผลิตแบตเตอรี่ เป็นธุรกิจหลักในอนาคต หลังพัฒนานวัตกรรม จนขึ้นโรงงานนำร่อง พร้อมผลิตได้ในเกินไตรมาส 2 ตั้งเป้าอีก 2 ปีเพิ่มกำลังผลิตเป็น 1,000 MWh 
นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ผู้นำด้านธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. กล่าวในงานสัมมนา"จับสัญญาณการลงทุน ยุค New Normal " จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจถึงทิศทางการดำเนินงานของบริษัทว่า ในการขับเคลื่อนบริษัทจะเน้นไปที่ 3 เสาหลัก ได้แก่ 1.การบริหารจัดการต้นทุนและการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูงสุด หลังจากที่รวมกิจการกับบริษัท โกลว์พลังงาน (GLOW) 2.การขับเคลื่อนบริษัทไปพร้อมกับการขยายการลงทุนในกลุ่มบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนด้านผลิตไฟฟ้า เช่น การได้รับสิทธิจากบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ.ในการเข้าไปลงทุนไฟฟ้าจากกาซธรรมชาติในเมียนมา และโอกาสในการเข้าลงทุนในเวียดนาม เป็นต้น และ 3.การต่อยอดเทคโนโลยีและเป็นฐานการสร้างรายได้จากธุรกิจในรูปแบบใหม่ที่เป็น New S-Curve รองรับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจพลังงานและธุรกิจไฟฟ้าในอนาคต
ทั้งนี้ จากกระแสการใช้พลังงานของโลกเป็นพลังงานสีเขียวมากขึ้น ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสที่จะตอบสนองความต้องการ ที่จะมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมพลังงานเพื่อก้าวสู่ธุรกิจอนาคต (S-Curve) รองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี โดยแบตเตอรี่หรือระบบกักเก็บพลังงาน ถือเป็นธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์การเป็นผู้พัฒนาระบบ Energy Management Solution Provider ดังนั้น การพัฒนาโรงงานผลิตแบตเตอรี่ให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน ได้นำเอาเทคโนโลยี Semi Solid ของ บริษัท 24M Technologies จากสหรัฐอเมริกา พัฒนาต่อยอดธุรกิจ ซึ่งการผลิตแบตเตอรี่จะเป็นธุรกิจหลักสำคัญของบริษัทในอนาคต เพื่อรองรับทิศทางพลังงานสีเขียวของโลก
วรวัฒน์ พิทยศิริ ซีอีโอและกรรมการผู้จัดการใหญ่ GPSC

วรววัฒน๋ พิทยศิริ ซีอีโอและกรรมการผู้จัดการ GPSC

การดำเนินงานล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ต้นแบบนำร่อง ระยะแรกจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 30 MWh (เมกะวัตต์ชั่วโมง) ซึ่งจะเริ่มผลิตได้ไม่เกินไตรมาส 2 ปีนี้ และมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 MWh (เมกะวัตต์ชั่วโมง) ในอีก 2 ปีข้างหน้า 
นอกจากนี้ บริษัทยังซื้อหุ้นในบริษัท Anhui Axxiva New Energy Technology Co.,Ltd. (AXXIVA) สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งประกอบธุรกิจโรงงานผลิตแบตเตอรี่ กำลังผลิต 1GWh ต่อปี เป็นเงินลงทุน 500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 11.1% ของทุนทั้งหมดของ AXXIVA ซึ่งมองว่าจีนเป็นตลาดใหญ่ ด้านรถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี การผลิตแบตเตอรี่จะยังมีความต้องการอีกมาก และเป็นแหล่งผลิตที่มีต้นทุนถูกที่สุดของโลก รวมถึงแหล่งวัตถุดิบผลิตแบตเตอรี่มีอยู่ทั้งหมดในจีน
นายวรวัฒน์ กล่าวอีกว่า เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ยังได้จับมือกับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ ในการเปิดตัวโครงการ G-Box ซึ่งเป็นระบบกักเก็บพลังงานผ่านแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System) ซึ่ง GPSC ได้พัฒนาขึ้น มีขนาด 150 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวีในสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น สาขาหนองแขม หากการทดลองใช้ได้ผลดี ในปีหน้าจะมีแผนขยายผลในสถานีบริการน้ำมันอื่น ๆ อีกราว 100-200 แห่ง