“ออโต้บอท” เร่งเครื่อง AIoT ตั้งเป้าสู่ Tech company

26 ก.พ. 2564 | 11:26 น.

“ออโต้บอท” หุ่นยนต์ดูดฝุ่นแบรนด์ไทย ทรานฟอร์มสู่ Tech company ตั้งเป้ารายได้ 500 ล้านบาท เติบโต 100%

นายธรรมสร มีรัตน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรบอท เมคเกอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ในประเทศไทยมีมูลค่ารวมหลักพันล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 20-30% ตามการเติบโตของตลาดโลกและมีส่วนแบ่งการตลาด 20% ของตลาดเครื่องดูดฝุ่น

ในปี 2563  ออโต้บอทสามารถทำยอดขาย 200 ล้านบาท เติบโต 50% จากปี 2562 โดยปีนี้ ตั้งเป้ารายได้ 300-500 ล้านบาท เติบโต 50-100% สืบเนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลายทาง เช่น สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลให้คนนิยมอยู่บ้านและค่าฝุ่น PM2.5 ทำให้คนหันมาใส่ใจความสะอาดภายในบ้านมากขึ้น ขณะเดียวกันก็นิยมสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้จำนวนผู้เล่นในตลาดยังลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากเดิมมากว่า 10 ราย เหลือผู้เล่นหลักๆ เพียงไม่กี่ราย เช่น Xiaomi, iRobot, Ecovac รวมทั้ง Mister Robot และ Autobot ที่เป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแบรนด์ไทย

ธรรมสร มีรัตน์

จุดนี้เป็นโอกาสทางธุรกิจของ “ออโต้บอท” ที่จะผลักดันยอดขายและเพิ่มการเติบโต เพราะ “ออโต้บอท” มีช่องทางการขายผ่านออนไลน์เป็นหลัก 80% ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นใน Shopee สัดส่วน 40% ของยอดขาย, 50% กระจายเป็ นแพลตฟอร์มอื่น อาทิเฟซบุ๊ก เว็บไซต์อีคอมเมิร์ชค่ายต่างๆ อาทิลาซาด้า, เจดี เซ็นทรัล, คิงพาวเวอร์ และอีก 10% คือลูกค้า OEM (Original Equipment Manufacturer) 

สำหรับกลยุทธ์สร้างการเติบโตในปีนี้ บริษัทคาดหวังพัฒนาองค์กรไปสู่การเป็น Tech company โดยสินค้าที่จะออกสู่ตลาดหลังจากนี้จะเป็นสินค้า AIoT โดยเฉพาะในกลุ่ม Smart Home ครอบคลุมทุกการใช้ง่ายที่สดวกสบายภายในบ้านจำนวน 80 รายการ จากเดิม 20 รายการ ในไตรมาสแรกของปี สามารถส่งสินค้าออกสู่ตลาดแล้วกว่า10 รายการ

คาดว่าภายในปี 2564 บริษัทจะมีสินค้ากลุ่ม AIoT ประมาณ 100 รายการ อาทิ Smart Switch, Digital Door Lock, เครื่องชงกาแฟ เครื่องฟอกอากาศ เครื่องอบรองเท้า และหุ่นยนต์ทำความสะอาดห้องน้ำอัตโนมัติ ฯลฯ ซึ่งจะวางจำหน่ายในประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งสามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน Autobot Plus

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ AUTOBOT STORM 3

ในปีนี้บริษัทได้วางงบการตลาดราวๆ 40-50 ล้านบาท แบ่งเป็นงบการตลาดออนไลน์ 60% จาก 80% ในปีที่ผ่านมา และงบการตลาดออฟไลน์ 40%เพิ่มขึ้นจาก 20%ในปีที่ผ่านมา เพื่อขยายฐานลูกค้าในโซนต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเน้นการสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขาย ซึ่งในอนาคตอาจมีการเปิดแฟรนไชส์ในหัวเมืองใหญ่

นอกเหนือจากสินค้าที่พัฒนาเพื่อการตอบโจทย์ความสะดวกสบายของผู้บริโภคแล้ว บริการหลังการขายก็สำคัญไม่แพ้กัน บริษัทได้พัฒนาบริการแจ้งปัญหาจากการใช้งานผ่าน แอพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งมีฐานลูกค้าบนระบบกว่า 40,000 คน รวมทั้งบริการรับ ซ่อม ทำความสะอาด ถึงบ้านผ่านพาร์ทเนอร์อย่าง DHL ซึ่งจะทำหน้าที่ส่งซ่อม และส่งกลับถึงหน้าบ้าน

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ AUTOBOT STORM 3

“ปีนี้เราอยากพัฒนาสู่ Tech company 100% ดังนั้นทิศทางบริษัทหลังจากนี้ จะเน้นไปที่การพัฒนาสินค้าใหม่ๆในกลุ่ม AIoT ทั้งหมด เริ่มจาก Smart Home โจทย์หลักคือการพัฒนาเทคโนโลยีที่ยากให้ใช้งานง่าย ความได้เปรียบของเราคือพร์อตสินค้าที่กว้าง โดยมีราคาตั้งแต่ 3,000 บาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย แต่ยังคงใช้ฐานการผลิตในประเทศจีน เกาหลี และไต้หวัน เป็นหลัก”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

“ออโต้บอท” ต่อยอดสินค้า AI เจาะตลาด Smart home ดันรายได้โตสามเท่า 

“โควิด”ดันอุตสาหกรรมอาหาร-เครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือน-เภสัชภัณฑ์โต 

คลัง สั่ง สรรพสามิต ศึกษาเก็บภาษีเครื่องใช้ไฟฟ้า 

“สมอ.” ถกผู้นำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 600 รายเตรียมพร้อมก่อนบังคับใช้ "มอก." 

“สมอ.” สั่งแสดง QR Code คู่กับเครื่องหมาย “มอก.”