นายพาทริค โรมัน บรูล์มาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งด้านการขายและการตลาดผลิตภัณฑ์ด้านเวชกรรม โภชนาการ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ในโรงพยาบาล ทั้งในประเทศไทยและอีก 3 ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม พม่า
แม้ภาพรวมในปีที่ผ่านมา บริษัทจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด 19 ส่งผลให้รายได้จากขายสินค้าลดลงทั้งส่วนของคลินิก ร้านยา รวมทั้งโรงพยาบาลในโซนที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวจาก การที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้
เช่นเดียวกับสินค้าอุปโภคบริโภคที่พึ่งพาการบริโภคภายในประเทศมียอดขายที่ลดลงเช่นเดียวกัน เพราะผู้บริโภคลดการบริโภคและระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และคาดว่าปีนี้จะยังเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับทุกธุรกิจรวมทั้ง แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ ด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ธุรกิจบางส่วนจะถูกกระทบทำให้ยอดขายลดลง แต่สินค้าในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับการป้องกันไวรัส อาทิ ถุงมือยาง ชุด PPE รวมทั้งกลุ่มอาหารเสริมกลับเติบโตขึ้นตามความต้องการของผู้บริโภคที่ตกอยู่ในภาวะวิตกกังวลและต้องการดูแลสุขภาพเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจของ แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ ในปี2563 ติดลบเพียง 3-4% จากปี 2562 โดยมีรายได้รวม 2,500 ล้านบาท จากธุรกิจยา 40% เครื่องมือทางการแพทย์ 30% และคอนซูมเมอร์เฮลธ์แคร์ 30% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับตัวรับมือทั้งการควบคุมต้นทุนและลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นต่างๆ
สำหรับแผนธุรกิจจากนี้ จะให้น้ำหนักกับการพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้สูงอายุในประเทศ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในปี 1-2 ปีนี้จะสามารถวางจำหน่ายสินค้าใหม่ในกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและจดทะเบียนทั้งหมดอย่างแน่นอน
อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่จะเห็นชัดขึ้นคือการขยายตลาดไปสู่ ธุรกิจออนไลน์ และ อีคอมเมิร์ช ซึ่งได้รับผลการตอบอย่างดีในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาและคาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ควบคู่กับการรักษาช่องทางการขายออฟไลน์เดิมกว่า 8,000 แห่ง ซึ่งคาดว่าหลังจากการฉีดวัคซีนโรคโควิด 19 จะช่วยให้การแพร่ระบาดน้อยลง และมีการเดินทางของนักท่องเที่ยว ยอดขายในส่วนนี้จะกลับมาเช่นเดียวกัน
ในส่วนของตลาดต่างประเทศ ยังรักษายอดขายและการเติบโตได้ดีในสัดส่วน 20 % ของยอดขายรวมของบริษัท อย่างไรก็ตามแม้ตลาดเวียดนามยังคงเติบโตได้ดี แต่ยังต้องจับตามองตลาดเมียนมา อย่างใกล้ชิดจากสถานการณ์ทางเมืองภายในที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและกำลังซื้อในเมียนมาเช่นเดียวกัน
“สำหรับเรา ปีนี้ยังเป็นปีที่ท้าทายจากปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบ ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด 19 สถานการทางการเมืองของเมียนมา ที่ส่งผลให้ยอดขายลดลง แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี ที่แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ ทำธุรกิจบนความหลากหลายของบิสิเนสโมเดล ทำให้สามารถรักษาสมดุลและเดินหน้าต่อไปได้
นอกจากนี้แม้ตลาดเดิมโดยเฉพาะนมแพะ DG จะยังเติบโตได้ดี แต่การมีผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาเสริมพร์อตและช่องทางจำหน่ายใหม่ๆเช่น อีคอมเมิร์ช ก็เป็นสิ่งที่ต้องโฟกัสมากขึ้นเช่นกัน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: