ครม.ไฟเขียวให้ "บ.หลักทรัพย์ฯ-ธุรกิจบัตรเครดิต-ประกันชีวิต" ต้องรายงานข้อมูลบัญชีสหรัฐ

23 ก.พ. 2564 | 23:05 น.

ครม.เห็นชอบกำหนดให้ "บ.หลักทรัพย์ฯ-ธุรกิจบัตรเครดิต-ประกันชีวิต-ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า" ต้องรายงานข้อมูลบัญชีสหรัฐ ตามข้อตกลงร่วมมือภาษีอากรระหว่างประเทศ FATCA ป้องกันการเลี่ยงภาษี-จัดเก็บซ้ำซ้อน

ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (23 ก.พ.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้มีข้อตกลงความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศและการดำเนินการตาม Foreign Account Tax Compliance Act  : FATCA 

วัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในด้านภาษีอากรผ่านระบบปฏิบัติการแลกเปลี่ยนข้อมูลอัตโนมัติ จะได้ไม่มีการเก็บภาษีซ้ำซ้อนและป้องกันการเลี่ยงภาษีในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ และเพื่อให้ข้อตกลงมีผลบังคับทางกฎหมาย

ได้มีการออกพระราชบัญญัติการปฏิบัติตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามภาษีอากรระหว่างประเทศ พ.ศ.2560 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 ดังนั้น เพื่อให้สถาบันการเงินของไทยสามารถปฏิบัติตามความตกลงฯ ได้อย่างถูกต้อง 

ครม.จึงเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับประเภท ลักษณะ ขนาด การให้บริการ หรือธุรกรรมของผู้มีหน้าที่รายงาน พ.ศ. ....  (รายงานข้อมูลบัญชีสหรัฐในสถาบันการเงินไทย ตามที่กำหนดในข้อตกลง ฝั่งสหรัฐก็มีต้องรายงานเช่นเดียวกัน)

สาระสำคัญ คือ กำหนดให้ผู้มีหน้าที่รายงานข้อมูลบัญชี มีดังต่อไปนี้

1.สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน

2.บริษัทหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

3.สถาบันการเงินของรัฐที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น

4.ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิตและผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย

5.ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

6.ผู้ดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญาตามกฎหมายว่าด้วยการดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา

7.ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต

8.บุคคลอื่นใดที่ประกอบธุรกิจรับฝากหลักทรัพย์รับฝากเงินหรือดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุน

ทั้งนี้ เว้นแต่บุคคลที่ไม่มีหน้าที่รายงานตามความตกลงฯ หรือไม่มีหน้าที่รายงานหรือได้รับยกเว้นไม่ต้องรายงานตามประเภทลักษณะขนาดหรือที่มีการให้บริการหรือธุรกรรมตามที่ระบุไว้ในเอกสารแนบท้ายความตกลง 2 หรือตามระเบียบข้อบังคับกระทรวงการคลังของประเทศสหรัฐอเมริกา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :