แนะลงทุนหุ้นรับวัคซีนป้องกันโควิดล็อตแรกถึงไทย

23 ก.พ. 2564 | 08:34 น.

บล.โกลเบล็ก คาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหว 1,470 - 1,530 จุด หลังขาดปัจจัยใหม่สนับสนุน หวั่นเฟดอาจยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในอนาคต และ MSCI Index เตรียมลดน้ำหนักลงทุนตลาดหุ้นไทย แนะลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากวัคซีนโควิด-19ล็อตแรกถึงไทย

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาส Sideway Down จากความกังวลกับตัวเลขเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีโอกาสส่งผลให้นาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินได้ รวมถึงราคาน้ำมันดิบ WTI ที่อ่อนตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานทำให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานออกมาต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน MSCI Index เตรียมปรับลดน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นไทยรอบใหม่ ซึ่งจะมีผลประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ก.พ. ทั้งนี้ คาดกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ระดับ 1,470 - 1,530 จุด

ขณะที่ ปัจจัยในประเทศนักลงทุนทยอยรับรู้ปัจจัยเหล่านี้มาในระดับหนึ่ง อาทิ การประกาศงบของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งวันที่ 1 มีนาคมนี้จะเป็นกำหนดวันรายงานผลการดำเนินงานวันสุดท้าย คาดว่าผลการดำเนินจะสะท้อนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะเดียวกันทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีการยืนยันกำหนดการวัคซีนโควิด-19 ล็อตแรกของประเทศไทย จำนวน 200,000 โดสจะมาถึงไทยในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ เป็นสัญญาณบวกต่อความเชื่อมั่นมากขึ้น

แนะลงทุนหุ้นรับวัคซีนป้องกันโควิดล็อตแรกถึงไทย

นอกจากนี้ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมชงศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เพื่อพิจารณาจัดตั้งกองทุน 30,000 ล้านบาทสำหรับช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยวในการปรับตัวให้เข้ากับสมดุลใหม่หลังโควิด-19 คลี่คลาย อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์ได้มีการรายงานว่าสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มีการส่งออกโตต่อเนื่องโดยมียอดรวมในปี 63 มูลค่าสูงถึง 1.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.4% ส่วนใหญ่ได้อานิสงส์จากการการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนปัจจัยการเมืองมีความไม่แน่นอนลดลงหลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีเสียงข้างมากลงมติ “ไว้วางใจ” ฝ่ายรัฐบาลในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ แนะนำลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์ จากวัคซีนโควิด-19 ล็อตแรกเข้าไทย ได้แก่  AWC – ERW - MINT - CENTEL- CPN – CRC – SPA และ AOT รวมทั้งแนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีค่าระวางเรือ ได้แก่ TTA – PSL และ RCL