"เจเน็ต เยลเลน" รมว.คลังสหรัฐออกโรงเตือนเม่าเสี่ยงขาดทุนจากบิตคอยน์

23 ก.พ. 2564 | 03:28 น.

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวเตือนนักลงทุนในการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์วานนี้ (22 ก.พ.) เกี่ยวกับ "ความเสี่ยง" ในการถือครองบิตคอยน์ (Bitcoin) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความผันผวนทางด้านราคาเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะพุ่งขึ้นสูงแต่ก็สามารถปรับลงต่ำทันทีที่มีข่าวอ่อนไหว

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า เธอไม่คิดว่า บิตคอยน์ จะถูกใช้เป็นกลไกในการทำธุรกรรมในวงกว้าง และสิ่งที่เธอวิตกเกี่ยวกับบิตคอยน์ก็คือ มันมักจะถูกใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ นางเยลเลนยังตั้งข้อสังเกตถึง กระบวนการ "ขุด" บิตคอยน์ ซึ่งต้องใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงจำนวนมากในการแก้สมการทางคณิตศาสตร์ ทำให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก

รัฐมนตรีคลังสหรัฐยังเตือนถึงความผันผวนของราคาบิตคอยน์ว่า บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่มีการเก็งกำไรสูง ซึ่งนักลงทุนควรตระหนักถึงความผันผวนอย่างมากของราคาเมื่อผู้คนแห่กันเข้ามาเก็งกำไรบิตคอยน์ ซึ่งจะทำให้เกิดการขาดทุนได้มาก

ทั้งนี้ ราคาบิตคอยน์ดิ่งลงกว่า 17% วานนี้ (22 ก.พ. เวลาท้องถิ่นสหรัฐ) หลุดระดับ 50,000 ดอลลาร์ หลังจาก นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ กล่าวว่า ราคาของบิตคอยน์อยู่ในระดับที่ “สูงเกินไป” ในขณะนี้

เจเน็ต เยลเลน

บิตคอยน์พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ระดับ 58,354 ดอลลาร์ หรือกว่า 1,750,000 บาท หลังจากมีมูลค่าตลาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ก.พ.)

อย่างไรก็ตาม ณ เวลา 21.17 น.วานนี้ (22 ก.พ.) ตามเวลาไทย บิตคอยน์ร่วงลง 9,807 ดอลลาร์ หรือ 17.25% สู่ระดับ 47,023 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase

ก่อนหน้านี้ เทสลาประกาศลงทุนในบิตคอยน์มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 45,000 ล้านบาทเมื่อวันที่ 8 ก.พ. และบริษัทพร้อมรับชำระด้วยบิตคอยน์จากลูกค้าสำหรับการซื้อรถยนต์และผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้บิตคอยน์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 44,000 ดอลลาร์ในวันดังกล่าว

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เทสลาสามารถทำกำไรจากการพุ่งขึ้นของบิตคอยน์ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 30,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเมื่อนายอีลอน มัสก์ ออกมาให้ความเห็นเมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) ว่าตอนนี้ราคาบิตคอยน์สูงเกินไป ราคาบิตคอยน์ก็ร่วงผล็อยลงทันที

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: