โดนอีกราย กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ถือครองหุ้นสื่อ

22 ก.พ. 2564 | 01:50 น.

ศรีสุวรรณ เผย กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "วีระชน นามประกาย" ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร พรรคอนาคตใหม่ถือครองหุ้นสื่อ

22 กุมภาพันธ์ 2564 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมฯได้ยื่นร้องเรียนไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อ 29 เม.ย.62 เพื่อขอให้วินิจฉัยคุณสมบัติของนายวีระชน นามประกาย กับพวกผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ อาจขัดต่อ ม.98(3) แห่งรัฐธรรมนูญ 2560 เนื่องจากถือครองหุ้นสื่อในขณะที่ยื่นสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่นั้น

ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ.64 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีหนังสือถึงสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยแจ้งคำวินิจฉัยของ กกต.ที่ 9/2564 กรณีการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2564 โดย กกต. พิจารณาแล้วเห็นว่าให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายวีระชน นามประกาย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) และมาตรา 151 กรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ในการถือครองหุ้นสื่อ

กรณีของนายวีระชน นามประกายนั้น กกต. ได้ตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า เป็นหุ้นส่วนของ หจก.วชิรวิชญ์ เคเบิ้ลทีวี หจก.สมาร์ท เซอร์วิส เน็ทเวิร์ค และ หจก.นครพนม ทีวี แอนด์ เน็ทเวิร์ค โดยกรณี หจก.นครพนม ทีวี แอนด์ เน็ทเวิร์ค

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปรากฏวัตถุประสงค์ในข้อ 23 ว่า ประกอบกิจการส่งเสริมการศึกษา และให้บริการข่าวท้องถิ่นแก่บุคคล คณะบุคคล นิติบุคคล ส่วนราชการ และองค์การอื่น ๆ ของรัฐฯ (เคเบิ้ลทีวี) โดยเป็นการประกอบกิจการสื่อมวลชนใด ๆ และแม้นายวีระชน จะให้ถ้อยคำว่า หจก.นครพนม ทีวี แอนด์ เน็ทเวิร์ค เลิกกิจการไปแล้วเมื่อประมาณปี 2558 และตนออกจากการเป็นหุ้นส่วนประมาณเดือน ม.ค.2562 โดยอ้างสำเนาหนังสือถอนเงินลงหุ้นเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2562 ระบุว่า ยอมขาดสิทธิจากการเป็นหุ้นส่วนเป็นหลักฐาน แต่ที่ไม่สามารถจดทะเบียนเลิกห้างได้ เนื่องจากสำนักงาน กสทช. มีหนังสือขอระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี หรือระงับการขีดชื่อนิติบุคคลออกจากทะเบียนนิติบุคคลร้าง             

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบแบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2559 ยังคงนำส่งงบการเงินรอบปี 2559 โดยไม่ปรากฏหลักฐานว่า นายวีระชน ดำเนินการยื่นขอแก้ไขเพิ่มเติมผู้เป็นหุ้นส่วนต่อนายทะเบียนแต่อย่างใด ประกอบกับนักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้ถ้อยคำว่า หจก.นครพนม ทีวี แอนด์ เน็ทเวิร์ค มีสถานะดำเนินกิจการอยู่ ขณะเดียวกันสำนักงาน กสทช. มีหนังสือแจ้งว่า หจก.แห่งนี้เป็นผู้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ และเอกสารของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2562 ระบุว่า นายวีระชนยังเป็นหุ้นส่วนของ หจก.แห่งนี้อยู่

กกต.จึงมีมติให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายวีระชน นามประกาย ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.98(3) และ พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 ม.42(3) และ ม.151 ซึ่งมีอัตราโทษโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปีด้วย นายศรีสุวรรณ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :