พล.อ.ชัยชาญ แจง กอ.รมน. ใช้งบติดตั้งโซล่าเซลล์ "อมก๋อย" แพงกว่า "พิมรี่พาย"

19 ก.พ. 2564 | 11:50 น.

“พล.อ.ชัยชาญ” แจง “กอ.รมน.” ใช้งบ 45 ล้าน ติดตั้งโซล่าเซลล์ อมก๋อย แพงกว่า “พิมรี่พาย” เหตุมีส่วนควบต่างกัน ย้ำ มีหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยมากกว่าความมั่นคง

19 กุมภาพันธ์ 2564 จากกรณีที่ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. เชียงรายพรรคเพื่อไทย เปิดคลิปวีดีโอ “พิมรี่พาย” หรือ พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร เน็ตไอดอลและยูทูบเบอร์คนดัง ไปติดตั้ง แผงโซล่าเซลล์ ที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ว่า ใช้งบประมาณติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ในพื้นที่เพียง 55,000 บาท แต่ในพื้นที่ใกล้เคียง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้งบมาจากกองทุนพัฒนา พลังงาน 45 ล้านบาท เช่น อำเภออมก๋อย เกินความจำเป็นหรือไม่ ในการก่อสร้างจุดละ 9 ล้านบาท และโครงการนี้ก็ยังไม่ได้ก่อสร้าง ชาวบ้านยังไม่ได้ใช้ไฟ โทรทัศน์ดูไม่ได้ จึงถามไปยังนายกรัฐมนตรีว่า กอ.รมน.มีหน้าที่ในการไปต่อไฟฟ้า หรือ แผงโซล่าเซลล์ที่ทำด้วยทองคำหรืออย่างไร เหตุใดจึงแพงกว่า พิมรี่พาย

สำหรับเรื่องนี้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีการชี้แจงการติดโซล่าเซลล์ในพื้นที่ อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ มีงบประมาณสูงถึง 45 ล้านว่า เนื่องจากมีส่วนควบที่แตกต่างกัน ทั้งเรื่องการปักเสา 5 กิโลเมตรเศษ สถานที่เก็บแบตเตอรี่ และระยะประกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการที่จะส่งมอบให้กับท้องถิ่นรับไปดำเนินการต่อ ในส่วนของโซล่าเซลล์สูบน้ำ ทั้งในพื้นที่ตากและแม่ฮ่องสอน พล.อ.ชัยชาญ ระบุว่า มีการดำเนินการมากกว่า 2 ปีแล้วซึ่งอยู่ในช่วงที่บางจุดอาจเสื่อมสภาพไป แต่อยู่ในระหว่างประกัน และในช่วงโควิด 19 ก็ยังไม่สามารถดำเนินการปรับปรุงได้ และในระหว่างนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาเพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินการได้ตามเดิม

ทั้งยังชี้แจงกรณีสวัสดิการของกองทัพด้วยว่า ทุกส่วนราชการมีสวัสดิการตามความสามารถที่จะดำเนินการได้ แต่ในส่วนของกองทัพประเทศต่างๆโดยเฉพาะในอาเซียนหรือแม้แต่สหรัฐอเมริกา ก็มีสวัสดิการที่จะรองรับในกรณีปฏิบัติภารกิจและกลับมาพัก ก็มีกรอบแนวคิดกรอบการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

ส่วนกรณีสวัสดิการบ้านพักภายในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพและกรมธนารักษ์ ในการทำเป็นบัตรสวัสดิการให้กับกำลังพล ซึ่งกำลังพลแต่ละคนไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถพักอาศัยเมื่อเกษียณได้แล้ว โดยดำเนินการที่จะลงนามความร่วมมือกัน ซึ่งร้อยละ 70 เป็นลูกจ้างและกำลังพลของกองทัพ และอีกร้อยละ 30 เป็นข้าราชการทั่วไป ซึ่งเป็นข้อตกลงกันระหว่างกองทัพในการใช้ที่ราชพัสดุที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์

ส่วนสถานพักผ่อนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้เข้าไปอยู่ในระบบของสวัสดิการเชิงธุรกิจ เป็นความร่วมมือกับกรมธนารักษ์ในการร่วมมือกันดำเนินกิจการโดยหากมีรายได้ก็จะส่งให้กรมธนารักษ์ และบางส่วนก็จะเป็นสวัสดิการให้กับกำลังพลในกองทัพ

ส่วนอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรหรือ กอ.รมน. ไม่ได้เป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับกระทรวงกลาโหม แต่ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี รวมทหาร พลเรือน และตำรวจ ซึ่งในปัจจุบันภัยที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะภัยพิบัติไม่สามารถที่จะมีหน่วยงานเดียวในการดำเนินการในภัยพิบัติได้ การดำเนินการร่วมกันทุกหน่วยงานก็จะทำให้การแก้ไขปัญหาในการดูแลหรือรองรับภัยพิบัติต่างๆ ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการปรับแก้เพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของกอ.รมน. ส่วนใหญ่จะเพิ่มเติมในส่วนที่จะไปดูแลประชาชนเรื่องการบรรเทาสาธารณภัยมากกว่าเรื่องความมั่นคง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :