“มิ่งขวัญ” ถล่มยับ “แอปเป๋าตัง” เกิดโกงออนไลน์-สร้างความเหลื่อมล้ำ

19 ก.พ. 2564 | 10:35 น.

“มิ่งขวัญ” ถล่มยับ แอปเป๋าตัง ก่อให้เกิดการโกงออนไลน์ขึ้นเป็นครั้งแรกของไทย สะท้อนความเหลื่อมล้ำ ยกสหรัฐอเมริกา-ญี่ปุ่น เจ้าแห่งเทคโนโลยี ยังใช้วิธีแจกเงินตรงถึงมือประชาชน

19 กุมภาพันธ์ 2564 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่ 4 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการบริหารราชการแผ่นดิน บริหารเศรษฐกิจประเทศล้มเหลว ปากท้องของประชาชน ปัญหาโควิด เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น เอื้อนายทุน และการบริหารราชการแผ่นดินโดยรวม

ตอนหนึ่ง นายมิ่งขวัญ ส.ส.เศรษฐกิจใหม่ กล่าวตั้งข้อสังเกตว่า ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ไม่ถูกจุด นำมาใช้ในเรื่องที่ไม่ควรใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันที่จ่ายผ่านแอปเป๋าตัง ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน เกิดปัญหาตามมา เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น ภาพที่เห็นได้ชัดเจน ดังเช่น การเข้าแถวต่อคิดที่หน้าธนาคารกรุงไทยเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ เราชนะ ของกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน กลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเข้าไม่ถึงเทคโนโลยี

 

 

“รัฐบาลทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก ใช้เทคโนโลยี เรื่องที่ไม่ควรไฮเทคก็ใช้ไฮเทค ดังเช่น กรณีการโอนเงินเยียวยาเข้าแอปเป๋าตัง เป็นเรื่องของปากท้องแต่รัฐบาลกับทำเหมือนเกมส์ชิงโชค ถ้าทำแอปเป๋าตังไมได้ก็หลุดโอกาสไปเลย รัฐบาลคิดออกมาต่างๆมากมาย อาทิ เราไม่ทิ้งกัน คนละครึ่ง เราชนะ และล่าสุดคือ ม.33 เรารักกัน สิ่งเหล่านี้ ประชาชนต้องเข้าคิวแย่งกัน ตื่นเช้าเพื่อรอลงทะเบียน”

นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการโกงออนไลน์ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยรัฐบาลนี้ ยกตัวอย่างเช่น การใช้สิทธิเราชนะ กินก๋วยเตี๋ยวรวม 40 ชามโดยใช้สิทธิทุกๆ 2 นาที ทำให้มีการระงับการใช้ไปกว่า 100 ราย หรือ กรณีที่มีข่าวว่า ครูในจังหวัดหนึ่งรวมแก๊งรับหัวคิวโกงคนละครึ่ง เป็นต้น

ขณะที่เหตุการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมาที่มีประชาชนจำนวนมากไปเข้าคิวรอลงทะเบียนเราชนะหน้าธนาคารกรุงไทยจำนวนมาก เนื่องจากดาวน์โหลดแอปเป๋าตังไม่ได้ เพราะใช้โทรศัพท์ธรรมดา แม้ว่าจะแก้ปัญหาด้วยการให้ขยายวันรับลงทะเบียน  เหล่านี้ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำ

ในขณะที่ประเทศอเมริกา และญี่ปุ่น ประเทศที่พัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้กลับใช้วิธีการแจกเงินตรงพร้อมกันนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่า ทุกแอปฯ ที่เกิดขึ้นนั้น รัฐบาลได้มีการตรวจสอบเรื่องของความโปร่งใส หรือ เรื่องการทุจริตด้วยหรือไม่  

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :