“ก้าวไกล” ขยี้ประเด็น IO หมดเวลานายกฯ “ไม่รู้-ไม่เห็น-ไม่มี-ไม่ใช่”

19 ก.พ. 2564 | 04:43 น.

"ณัฐชา" งัดเอกสารกองทัพถามนายกฯ ขอให้ตอบชัดๆ เรื่องปฏิบัติการ IO ใช้ภาษีและบุคลากรของรัฐสร้างความแตกแยกในสังคม ปฏิเสธได้หรือไม่

การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรายบุคคล วันที่สี่วันนี้ (19 ก.พ.) เริ่มขึ้นในเวลา 09.00 น.  นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม กรณีใช้ ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (IO : Information Operations) ของกองทัพ สร้างความแตกแยกร้าวฉานในสังคมเพื่อดำรงอำนาจของตัวเองและพวกพ้อง

โดยนายณัฐชาเปิดประเด็นว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีการอภิปรายกันมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทุกครั้งนายกฯ ก็ไม่ได้ให้คำอธิบายที่คลายข้อข้องใจใดๆ มีการแต่การปฏิเสธไม่รู้ ไม่เห็น ไม่มี ไม่ใช่ ทำให้ทหารทั้งกองทัพต้องพลอยมัวหมอง เพราะต้องมาทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ที่สั่งให้ทหารต้องมาทำสงครามน้ำลายกับประชาชนในโลกออนไลน์ภายใต้ปฏิบัติการที่เรียกว่า ปฏิบัติการไอโอ รัฐเองก็ต้องสูญเสียทั้งงบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนและกำลังบุคลากรที่ต้องมาทำเรื่องนี้

“ท่านน่าจะรู้ดีในเรื่องนี้ เพราะมีบุคลากรในกองทัพเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนมาก ขอให้นายกฯตอบในสิ่งที่ประชาชนอยากรับรู้ อย่ามาใช้วาทกรรมแล้วหลีกเลี่ยงการตอบคำถาม” นายณัฐชากล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ต้องมาอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมในวันนี้เป็นเพราะนายกฯ ไม่ปฏิบัติตามภารกิจเร่งด่วนที่รับปากไว้ในการขจัดอาชญากรรมทางไซเบอร์ แต่ตัวนายกฯกลับมาทำเสียเอง นอกจากนี้ ยังจงใจใช้งบประมาณแผ่นดินและบุคลากร สร้างความเกลียดชัง โจมตีฝ่ายค้าน ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล และประชาชน สุดท้ายยังโกหกซ้ำซากว่าไม่เคยมีปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสาร (IO)ของกองทัพ ยังคงทำตัวเป็นหัวหน้าแก๊งยุยงปลุกปั่น เพื่อหวังสืบบัลลังก์อำนาจของตัวเอง เแต่การอภิปรายครั้งนี้ ตนมีหลักฐานมายืนยัน ถือว่าเป็น “หลักฐานเด็ดแต่หัววัน”   

 

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล

 

จากนั้นผู้อภิปรายได้นำคลิปวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ การประชุมสั่งการของมณฑลทหารบกที่ 21 ซึ่งเป็นการประชุม 2 วัน มีเนื้อหาการประชุมสั่งการให้ทหารปฏิบัติการทางข่าวสารโจมตีฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล พร้อมทั้งระบุย้อนเหตุการณ์ในวันที่ 17 ก.พ. 2563 ซึ่งเป็น 4 วันก่อนที่จะมีการตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วันนั้นมีการสั่งชัดเจนว่ากำลังจะมีการยุบพรรคอนาคตใหม่ ขอให้ทุกฝ่ายเตรียมตัวปฏิบัติการด้านข่าวสารรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นตามมา นายณัฐชากล่าวว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ แสดงว่ากองทัพจะปฏิเสธว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองได้หรือไม่

“มีการย้ำกันว่าอย่าให้เอกสารรั่วไหล โดยเฉพาะเอกสารการเงิน เพราะเขาเอาภาษีประชาชนมาใช้ในปฏิบัติการนี้  ดีที่เรามีหลักฐานมาเพราะเขาประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กัน”  ส.ส.ณัฐชา พรรคก้าวไกลกล่าวและยังนำเสนอเอกสารฝึกอบรม IO ผ่านโครงการจิตอาสา มีเอกสารการบรรบายของฝ่ายกองทัพที่ระบุถึงทีมขาว-ทีมดำ ซึ่งทีมขาวหมายถึงการผลิตและส่งต่อข่าวที่เป็นการเชิดชูนายกฯ และรัฐบาล  ส่วนทีมดำทำหน้าที่ผลิตเนื้อและส่งต่อการโจมตีฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดยใช้แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียต่าง ๆรวมทั้งไลน์กลุ่ม มีเป้าหมายสร้าง 54,800 บัญชีไอโอซึ่งจะอยู่ในการควบคุมของกองทัพ  

“ผมไม่ได้ยกเมฆนะครับ เอกสารที่ผมใช้ทั้งหมดนี้ผลิตโดยกองทัพ และรองโฆษกกองทัพบกก็ออกมายืนยันว่าเอกสารทั้งหมดเป็นของกองทัพจริง ใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์กองทัพ เป็นการอบรมการสื่อสารให้กับการประชาสัมพันธ์กองทัพ” นายณัฐชาตั้งข้อสังเกตว่า การทำปฏิบัติการเช่นนี้ แทนที่จะเป็นการประชาสัมพันธ์กองทัพ อาจจะได้ผลลัพธ์ทางตรงกันข้าม เพราะยิ่งทำประชาสัมพันธ์ ประชาชนก็ยิ่งเกลียดกองทัพ เพราะมีการแชร์ข่าวโจมตีม็อบ โจมตีประชาชน ซึ่งประเด็นดังกล่าวกลายเป็นประเด็นที่ต่างชาติจับตามอง แม้แต่ทวิตเตอร์ที่เป็นสื่อโซเชียลมีเดียระดับโลกก็ยังสั่งปิดหลายบัญชี IO เพราะเห็นว่ามีการสร้างบัญชีขึ้นมา ส่งข้อความที่เป็นสแปมซ้ำ ๆมากเกินไป เข้าข่าย platform manipulation จึงถูกทวิตเตอร์สั่งปิด

“ทำแบบนี้เราสูญเสียงบไปเท่าไหร่ ใช้งบและบุคลากรของกองทัพแบ่งแยกประชาชน สร้างความเกลียดชัง และสร้างความชอบธรรมให้ตัวนายกฯเองและพรรคพวก พฤติกรรมการสั่งการแบบนี้และให้ลูกน้องทำแบบนี้ มันไม่ทำให้บ้านเมืองสงบได้ ผมเห็นว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง” ในช่วงหนึ่งของการอภิปรายส.ส.ฝ่ายค้านยังย้ำถึงการใช้หน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นกรมประชาสัมพันธ์ หรือศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี มาใช้เป็นเครื่องมือในปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสารที่หวังสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาล และเด็ดปีกฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็นพรรคฝ่ายค้านหรือประชาชน  

“นี่คือองคาพยพที่แผ่กิ่งก้านสาขาของปฏิบัติการ IO ที่เชิดชูตัวเองแต่กดหัวฝ่ายตรงข้าม ใช้ภาษีประชาชนสร้างเนื้อหาที่ก่อให้เกิดความเกลียดชัง สร้างความแตกแยก ด้อยค่าความเป็นนักการเมือง ยกความเป็นทหารของท่านเอง โดยใช้กลไกช่องทางรัฐ หน่วยงานต่างๆ แผ่กิ่งก้านสาขาไปไกลมาก ภายใต้การบริหารราชการของท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ทั้งหมดนี้ ท่านเป็นผู้ดูแล ท่านต้องรับผิดชอบ ท่านสร้างวาทกรรมแบ่งแยก สร้างความแตกแยกในสังคม วันนี้ ถ้าท่านนั่งฟังอยู่ระหว่างเดินทางมาในรถ ผมอยากให้ท่านตอบด้วยว่า ทำหรือไม่และทำเพื่ออะไร”   

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

คำต่อคำ"บิ๊กช้าง" แจงข้อกล่าวหา"IO" ยันนายกฯไม่มีนโยบายสั่งการ

ข้อเท็จจริงไอโอ(IO) ปฏิบัติการข่าวสาร ในมุมกองทัพคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร

ทบ.ยัน ไร้จ้างเอกชนทำ IO แจง เอกสารทำทวิตเตอร์ว่อนโซเชียลเป็นแค่งานพัฒนาสื่อออนไลน์