ยัน “3 ป.” ไม่รับเงิน ไม่พอ ลุงตู่ต้องทำความจริงให้ปรากฏ

19 ก.พ. 2564 | 05:00 น.

ยัน “3 ป.” ไม่รับเงิน ไม่พอ ลุงตู่ต้องทำความจริงให้ปรากฏ : คอลัมน์ทางออกนอกตำรา ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3655 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 21-24 ก.ฑ.2564โดย... บากบั่น บุญเลิศ

 

     “ประเด็นการทุจริตผิดกฎหมาย มีการเรียกรับผลประโยชน์ ผมยืนยัน 3 ป. ไม่มีรับเงิน ใครกล่าวหา ไปพิสูจน์มา หาพยานมา แล้วไปสู้กับผมในคดีนี้ ในสภาพูดได้ไม่เป็นอะไร ท่านพูดได้ ผมก็พูดได้ แต่ผมก็ต้องรักษาเกียรติของผม และผมก็รู้ว่าท่านต้องการให้ผมโมโห ยากครับยาก บอกไว้ก่อน" เป็นคำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อค่ำของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564

     ภายหลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยอภิปรายและตั้งข้อกล่าวหาปล่อยให้มีการลักลอบเข้า-ออกของแรงงานต่างด้าว 3 ป. ซึ่งรับรู้กันในวงการเมืองหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา

ยัน “3 ป.” ไม่รับเงิน ไม่พอ ลุงตู่ต้องทำความจริงให้ปรากฏ

     ข้อกล่าวหาของ นพ.ชลน่าน ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ที่อภิปรายในสภาให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบว่า มีกระบวนการรับที่บว่ามีการ รับส่วยจากการนำเข้าแรงงานต่างด้าวจนทำให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ ปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบนำแรงงานข้ามชาติเข้ามา มีการจัดระบบเพื่อประมูลส่วยตั้งแต่ปี 2557 หรือหลังรัฐประหารเป็นต้นมา

     นพ.ชลน่าน ระบุว่า มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ มีการออกพ.ร.ก.เพื่อเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทย เช่น มาตรา 14 ของ พ.ร.บ.การบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าวปี 2560 ที่เป็นเหตุให้มีการเอาแรงงานต่างชาติเข้ามาทำงาน และเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่

ยัน “3 ป.” ไม่รับเงิน ไม่พอ ลุงตู่ต้องทำความจริงให้ปรากฏ

     นพ.ชลน่าน แฉอีกว่า ขบวนการนี้ บิ๊ก ป. โดย ป.2 ปี 2557 วางระบบเก็บส่วย ป.1 รวบอำนาจและรับส่วนต่อ โดยมี บิ๊ก ป.4 รุ่น 36 พ.ต.อ. รุ่น 42 ดาบ จ. 11/1 ซึ่งขอเรียกว่าดาบ จ. 120 ล้าน นาย ย. 11/2 นาย จ. 11/3 เจ๊ อ. 11/4 และเสี่ย อ. 11/5 กทม. ร่วมขบวนการ เรียกกลุ่มนี้ว่า กลุ่ม 11 มีพื้นที่เป้าหมายในการนำแรงงานต่างด้าวผ่านเข้ามาที่จังหวัดตาก เข้ามากรุงเทพฯ มาสมุทรปราการ สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร โดยมีแรงงานเถื่อนเข้ามากว่า 2 ล้านคน

     แรงงานข้ามชาติเหล่านี้ มีผู้ติดเชื้อเข้ามาแพร่ในประเทศไทย หากมีการปูพรมตรวจเชื้อโรค ต้องเจอจำนวนมาก แต่ปิดบังตัวเลขผู้ติดเชื้อเพราะกลัวถูกวิพากษ์วิจารณ์ จนทำให้บริหารสถานการณ์ล้มเหลว

     นพ.ชลน่านแฉอีกว่า กลุ่มส่วยต่อมาเป็นกลุ่มคนจีนทำกาสิโน และคอลเซ็นเตอร์ มี ป.2 วางระบบเก็บส่วน ส่งต่อถึง ป.1 ที่เป็นนายกฯ เป็นรัฐมนตรีผู้กำกับดูแล พ.ต.อ. ส.5 รุ่น 42 เป็นคนวางระบบส่วนคนแรง คนนี้เป็นสายตรง บิ๊ก ป.รุ่น 36

     ขบวนการนี้ มีหมวด ม.12/1 เป็นหัวหน้าทีม มี ด.ต.พ. 12/2 นายป. 12/3 นาย ผ. 12/4 นาย บ. 12/5 สท.ท. 12/6 นาง ป. 12/7 และ นายป. 12/8 ร่วมขบวนการ กลุ่มนี้ส่งส่วยขึ้นไปให้ ป.2 และป.1 ทั้งหมดนี้ ป.1 ป.2 ป.4 ปฏิเสธได้หรือไม่ หลักฐานมันฟ้อง เวลามีคดี เวลาจับกุมคุมขังได้ คดีเงียบหายหมด หากไม่มีการรู้เห็นเป็นใจคดีจะเงียบหายได้อย่างไร เพราะท่านปล่อยปละละเลย ไร้ความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง

     จึงกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ที่กำกับดูแล และเข้าไปเกี่ยวข้องกระบวนการนี้อย่างชัดเจน คนเขารู้กันหมดในเรื่องที่เกิดขึ้น มันทั้งคาตา และคาใจ

     เรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่ ที่รัฐบาลต้องทำความจริงให้ปรากฎให้ได้!

ยัน “3 ป.” ไม่รับเงิน ไม่พอ ลุงตู่ต้องทำความจริงให้ปรากฏ

     ผมเห็นว่า การที่ท่านนายกรัฐมนตรีประกาศไว้กลางที่ประชุมรัฐสภาว่า “ผมยืนยัน 3 ป. ไม่มีรับเงิน ใครกล่าวหา ไปพิสูจน์มา หาพยานมา แล้วไปสู้กับผมในคดีนี้ ในสภาท่านพูดได้ไม่เป็นอะไร ท่านพูดได้ ผมก็พูดได้ แต่ผมก็ต้องรักษาเกียรติของผมนั้นไม่พอ

     ท่านนายกฯประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร จะต้องไปทำความจริงให้เกิดขึ้นให้ได้ว่า แท้ที่จริงแล้วเป็นเช่นไร?

     เพราะผลจากการนำเข้าแรงงานเถื่อนจากต่างประเทศเข้ามาจนเกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 และทำให้รัฐบาลไทยต้องใช้งบประมารก้อนโตกว่า 3 แสนล้านบาท มาเยียวยาผู้คนในประเทศที่เดือดร้อนจนต้องมีการปิดประเทศ กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของคนในประเทศต้องแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

     ในประเด็นหนึ่ง รัฐบาลลุงตู่นี่แหละเป็นผู้ออก พระราชกำหนด(พ.ร.ก.) การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมาเนื้อหาสาระสำคัญหากพบแรงงานต่างด้าวเข้ามาผิดกฏหมายจะได้รับโทษหนัก โดยเฉพาะนายจ้าง หากไม่แจ้งนายทะเบียน มีโทษหนักจับปรับถึง 8 แสนบาท

     ส่วนคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานหรือทำงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คนต่างด้าวที่ทำงานจำเป็น และเร่งด่วนแต่ไม่แจ้งนายทะเบียน มีโทษปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท

     ผู้ใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือให้ข้ามแดนเข้ามา หรือข้ามแดนออกไป หรือข้ามมาแล้วมีการให้ซ่อนเร้นในสถานที่ที่พักอาศัยหรือช่วยเหลือในการหลบหนีเข้าไปยังพื้นที่ชั้นใน ก็ต้องมีความผิดด้วย โทษค่อนข้างแรงพอสมควร แบ่งเป็น 2 ประการ คือ คนที่เข้าไปช่วยนำพาข้ามแดน โทษจำคุก 10 ปี ปรับ 100,000 บาท ส่วนคนที่ซ่อนเร้นนำพาก็โทษจำคุก 10 ปี ปรับ 50,000 บาท

     ในประเด็นต่อมาในพ.ร.บ.ควบคุมโรคนั้นกำหนดไว้ชัดว่า 1.ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่มาให้ถ้อยคำหรือแจ้ง ข้อเท็จจริง หรือไม่ทำคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือไม่จัดส่งเอกสาร หรือหลักฐานใดเพื่อตรวจสอบหรือเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 49 ประกอบกับ มาตรา 45 (1))

     2.ผู้ใดที่เกี่ยวข้องที่ทราบว่ามีการระบาดของโรคติดต่ออันตรายเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าบ้านหรือผู้ควบคุม ดูแลบ้าน ผู้รับผิดชอบในสถานพยาบาล ผู้ทำการชันสูตรหรือ ผู้รับผิดชอบในสถานที่ที่ได้มีการชันสูตร เจ้าของหรือผู้ควบคุม สถานประกอบการหรือสถานที่อื่นใด ที่พบผู้ที่เป็นโรคติดต่อ หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่อดังกล่าว แล้วไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อในกรณีที่มีโรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง หรือโรคระบาดเกิดขึ้น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท (มาตรา 50)

     3. ผู้ใดที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่อ อันตรายหรือโรคระบาด หรือผู้ที่เคยเป็นผู้สัมผัสโรคหรือเป็น พาหะ แต่ไม่มารับการตรวจหรือรักษา หรือรับการชันสูตร ทางการแพทย์ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท (มาตรา 51 ประกอบกับมาตรา 34 (1)) เป็นต้น

ยัน “3 ป.” ไม่รับเงิน ไม่พอ ลุงตู่ต้องทำความจริงให้ปรากฏ

     ประเด็นต่อมาต้องยอมรับว่า การแพร่ระบาดของโฌรคโควิด-19 ระลอก 2 นั้น แรงงานต่างด้าวคือตัวการใหญ่ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศต้องติดดับดัก

     ปัจจุบันไทยมีแรงงานต่างด้าวอยู่ประมาณ 2.5 ล้านคน เป็นแรงงานตามมาตรา 59 ประมาณ 2.41 ล้านคน โดยเฉพาะแรงงาน MOU มี 1.02 ล้านคน และการนำเข้าตาม name list อีก 1.26 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในภาคบริการ โรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร ส่วนภาคอุตสาหกรรมรองลงมา นอกนั้นมีอุตสาหกรรมอาหาร และประมง

     แต่ปรากฎว่า มีการแอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศไทยกว่า 2 ล้านคน

     เฉพาะที่สมุทรสาครที่เดียวแวดวงธุรกิจจัดหาแรงงานบอกว่า ภาพรวมของแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในไทยแบบผิดกฎหมายมีอยู่ราว 500,000 ราย

     เมื่อมีการกล่าวหาว่านายกฯ 3 ป.เกี่ยวพันกับขบวนการค้าแรงงานเถือ่น ที่เขาพูดกันว่า แรงงานต้องจ่ายค่าการเดินทางเข้าประเทสผิดกฎหมายมาทำงานในประเทศไทยหัวละ 8,000-12,000 บาท หักค่าจิปาถะแล้วเหลือให้ขาใหญ่อยู่หัวละ 4,000 บาท ถ้าแรงงานเถือนเข้ามา 2 ล้านคนก็ปาเข้าไป 8,000 ล้านบาท ที่ตกอยู่ในอุ้งมือของกลุ่มขบวนนี้

     ถ้ามีการกล่าวหานายกรัฐมนตรี ผู้นำประเทศที่คนไทยไว้วางใจให้ทำหน้าที่หัวหน้าบริหารประเทศ ท่านต้องทำให้เรื่องนี้กระจ่าง อย่าปล่อยให้เป็นเรื่องแค่ข้อกล่าวหานายกรัฐมนตรีกันในรัฐสภาเท่านั้น