รพ.สต.คลองสวนพลู ใช้ E-Form อำนวยความสะดวก ปชช.

18 ก.พ. 2564 | 10:18 น.

รพ.สต.คลองสวนพลู เดินหน้านโยบาย 'ย้ายหน่วยบริการเกิดสิทธิทันที' ใช้ E-Form ลดเอกสาร-ขั้นตอน อำนวยความสะดวกประชาชน

           สปสช.ลงพื้นที่ชมการเดินหน้านโยบาย "ย้ายหน่วยบริการเกิดสิทธิทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน" หลังเริ่มพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่ 1 ม.ค. 64 พบเพียงเดือนเดียวมีข้อมูลลงทะเบียนย้ายหน่วยบริการรวม 2.6 แสนครั้ง ด้าน รพ.สต.คลองสวนพลู ใช้ระบบ E-Form ลดเก็บเอกสาร-ขั้นตอน  

           เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 คณะผู้บริหารสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นำโดย ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงาน "การลงทะเบียนสิทธิเกิดทันทีไม่ต้องรอ 15 วันด้วยระบบ E-Form" ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คลองสวนพลู    จ.พระนครศรีอยุธยา ตามนโยบายยกระดับบริการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข (สธ.) เพื่อแก้ไขปัญหาในการเข้ารับบริการของประชาชน นอกจากนี้ยังลดเอกสาร-ขั้นตอนหน่วยบริการ  

           สำหรับในอดีต เมื่อประชาชนลงทะเบียนในระบบบัตรทองหรือลงทะเบียนย้ายหน่วยบริการ จำเป็นต้องรอให้ถึงวันที่ 15 หรือ 28 ของเดือน จึงจะเกิดสิทธิ แต่ในปัจจุบันเมื่อประชาชนลงทะเบียนแล้วจะเกิดสิทธิทันที และสามารถไปรับบริการที่หน่วยบริการใหม่ได้โดยไม่ต้องรอ 15 วัน 

รพ.สต.คลองสวนพลู ใช้ E-Form อำนวยความสะดวก ปชช.

           นายคมสัน แสงเพลิง ผู้อำนวยการ รพ.สต.คลองสวนพลู เปิดเผยว่า การลงทะเบียนสิทธิเกิดทันทีไม่ต้องรอ 15 วัน ผ่านระบบ E-Form ทำให้ประชาชนสะดวกสบายขึ้น จากเดิมที่ต้องยื่นเอกสารตรวจสอบสิทธิ พร้อมเขียนใบคำร้อง ลงลายมือชื่อ และต้องย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาในพื้นที่ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ยื่นบัตรประชาชนเพื่อใช้พิสูจน์ตัวตนเท่านั้น ทำให้โรงพยาบาลไม่ต้องเก็บเอกสาร ช่วยทำให้รวดเร็ว ประหยัดเวลา และเจ้าหน้าที่ทำได้ทุกคน  

           อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ที่เริ่มประกาศใช้นโยบาย พบว่าสถิติการลงทะเบียนเพิ่มมากขึ้น โดยที่ รพ.สต.คลองสวนพลู มีผู้ขอย้ายสิทธิแล้วประมาณ 200 คน ขณะที่ทั้ง จ.พระนครศรีอยุธยา มีแล้วเกือบประมาณ 1,000 คน โดยหลังจากนี้จะเน้นย้ำในเรื่องของการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนได้มีหลักประกันสุขภาพและสามารถใช้ประโยชน์ได้  

นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เนื่องจาก จ.พระนครศรีอยุธยา มีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่จำนวนมาก มีการเคลื่อนย้ายประชากสูง การเปิดให้ย้ายสิทธิทางแอปพลิเคชันผ่านมือถือจึงสร้างความสะดวกให้พี่น้องประชาชนไม่จำเป็นต้องเดินทางมาย้ายสิทธิที่ รพ.สต. 

"นโยบายดังกล่าวถือเป็นระบบ New normal ที่จะลดความเสี่ยงต่อโรคโควิด – 19 โดยที่ประชาชนไม่จำเป็นต้องมาแออัดอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งถ้าประชาชนได้เข้าใจระบบการย้ายสิทธิทางแอปพลิเคชันก็จะทำให้เกิดความสะดวกยิ่งขึ้น ส่วนตัวประทับใจ เนื่องจากอาการเจ็บป่วยไม่สามารถรอได้ การใช้ระบบใหม่ก็จะทำให้เกิดสิทธิทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนพึงพอใจ" นพ.พีระ กล่าว 

           ด้าน ทพ.อรรถพร กล่าวว่า แนวทางในการ "ย้ายหน่วยบริการ เกิดสิทธิทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน" ได้เริ่มพร้อมกันทั่วประเทศแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 และเป็น 1 ใน 4 ของการพัฒนาระบบบริการในระบบบัตรทอง ที่จะช่วยลดขั้นตอนและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้ารับบริการให้กับประชาชน 

           ทั้งนี้ ปกติแล้วระบบการลงทะเบียนบัตรทองจะเกิดสิทธิทุกวันที่ 15 และ 28 ของเดือน แต่ปัจจุบันประชาชนจะสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการใหม่ได้ทันที หลังจากที่ได้มีการเปลี่ยนหน่วยบริการประจำ โดย สปสช.ได้พัฒนาระบบควบคุมกำกับ และจัดทำรายงานข้อมูลลงทะเบียนที่มีความผิดปกติและเสี่ยงพลการ เพื่อเตรียมความพร้อมให้นโยบายนี้เดินไปได้อย่างรัดกุม 

           ทพ.อรรถพร กล่าวอีกว่า ประชาชนสามารถลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการ หรือขอเปลี่ยนหน่วยบริการประจำ แล้วเกิดสิทธิทันทีได้ทุกช่องทาง ทั้งการลงทะเบียนผ่านหน่วยบริการ ช่องทาง สปสช.เขต 13 กรุงเทพมหานคร (กทม.) รวมถึงกรณีที่ประชาชนเปลี่ยนหน่วยบริการเองผ่านแอปพลิเคชัน สปสช. ซึ่งใน 1 ปีประชาชนสามารถเปลี่ยนหน่วยบริการได้มากกว่า 1 ครั้ง แต่จะไม่เกิน 4 ครั้งต่อปีงบประมาณ 

     อนึ่ง ข้อมูลเดือนมกราคม 2564 (29 ธ.ค. 2563 – 31 ม.ค. 2564) พบว่ามีประชาชนลงทะเบียนรวม 260,327 ครั้ง แบ่งเป็นการลงทะเบียนที่หน่วยบริการผ่านระบบ ERM รวม 239,181 ครั้ง ลงทะเบียนด้วยตนเองผ่าน MOBILE รวม 16,126 ครั้ง และลงทะเบียนที่หน่วยทะเบียน สปสช.เขต 13 กทม. รวม 5,020 ครั้ง 

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช.

นพ.พีระ อารีรัตน์ นพ.สสจ.อยุธยา