*** เคาะแล้วเรียบร้อยโรงเรียนบิ้กตู่ #เรารักกัน ผู้ประกันตน มาตรา 33 ระบบประกันสังคม 9.2 ล้านคน รับเงินเยียวยาโควิด-19 จำนวน 4,000 บาท เป็นเวลา 1เดือน จ่ายผ่านแอพเป๋าตัง ที่ต้องลงทะเบียนอีกที 21 ก.พ.นี้ เอาเงินมาจากไหนคำตอบคือเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทนั่นแหละ ไปแบ่งมาจากก้อนนั้น 3.71 หมื่นล้านบาท จดจ้องกันดีๆ เที่ยวนี้ลงทะเบียนผ่าน www.เรารักกัน.com เขาดูอะไรบ้างว่าใครได้สิทธิจากผู้ประกันตน ม.33ประมาณ 11 ล้านคน แต่ได้ 9.2 ล้านคน โดยให้กับผู้ที่ไม่มีเงินฝากรวมกันเกิน 5 แสนบาท แบ่งจ่ายเหมือนเดิม สัปดาห์ละพัน เริ่มโอนจันทร์ 22 มี.ค.งวดแรก
*** วุ่นวายกันทั้งเมือง “เราชนะ” ที่เปิดลงทะเบียนสำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ปรากฏ พ่อแก่-แม่เฒ่า ทั้งหลายที่ไม่มีสมาร์ทโฟน เดินทางมาเข้าแถวต่อคิวหน้าธนาคาร หวังให้ธนาคารลงทะเบียนให้ แถวยาวเหยียดเป็นกิโลฯ จากอุดรธานี ก็แน่นขนัด นครศรีธรรมราช ก็ทะลักทะลายเป็นพันเป็นหลายพันคน ก็ให้รู้สึกกังวลหากใครเข้าแถวต่อคิวแล้วเกิดติดโควิด-19 ขึ้นมา ก็จะระบาดใหญ่กันอีก ระวังๆ ป้องกันให้เข้มแข็ง แต่ภาพที่ออกมาสะท้อนความอ่อนหัด ประชาสัมพันธ์ของรัฐ ให้คนต้องไปแออัดยัดเยียดกันหน้าธนาคาร ทั้งที่ให้เวลาลงทะเบียนเป็น 10 วัน ตั้งแต่ 15-25 ก.พ.ด้วยซ้ำ และการมาลงทะเบียน ก็ใช่ว่าใครมาก่อนได้ก่อน แต่เป็นไปตามสิทธิและคุณสมบัติ ไม่ได้แจ้งให้เขาทราบ ทุกคนรีบมาเพราะกลัวเสียสิทธิ บทเรียนแล้วบทเรียนเล่ากระบอกเสียงรัฐบาลลุงตู่ ไม่เข้าท่า การผนึกประสานงานล้มเหลว เวลาจะทำโครงการรัฐอะไรออกมา อย่าสักแต่ทำๆ ให้พ้นๆ เป็นหน้าที่ แต่ต้องให้ได้ประสิทธิผล ไม่ก่อปัญหาระหว่างทาง แค่แถลงข่าว ออกข่าว ไม่ได้หมายความว่าตัวเองทำหน้าที่แล้ว คนต้องทำมาหากินไม่ได้อ่านข่าว ดูข่าวอยู่ตลอดเวลา แถลงออกมาก็ต้องดูด้วยว่าถึงผู้รับสารหรือไม่ ดูไปดูมาเที่ยวนี้หนักกว่าเก่า ทำงานกันอย่างไร***
***ถ้วนหน้า แถลงออกมาแล้วยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ในเครือของเสี่ยเจริญ บริษัทแอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ‘AWC’ ซึ่งมีธุรกิจอสังหาฯ โรงแรม อาคารสำนักงานให้เช่าน้อยใหญ่อยู่ภายใต้ธงนี้ ประกาศผลดำเนินงานทั้งปี 2563 มาแล้วขาดทุน 1881.23 ล้านบาท จากพิษภัยโควิด-19 แต่ระดับนี้ไม่มีผลสะเทือน แค่จิ๊บๆ เดี๋ยวเศรษฐกิจฟื้นก็ไปต่อ ใครๆ ก็โดน ดูอย่างโรงแรมแบรนด์เล็ก แบรนด์น้อยไม่มีแบรนด์ เจอพิษโควิดเที่ยวนี้ไปต่อไม่ไหว อัปปางกันถ้วนหน้า เร่ขายกันระนาว คนมีเงินถุง เงินถัง ก็กำเงินรอช็อปปิ้งของถูก แต่ที่แน่ๆ ของ AWC คณะกรรมการบอร์ดบริษัทอนุมัติเข้าลงทุนโครงการเวิ้งนครเกษมและเข้าลงทุนในบริษัท วรรณทรัพย์พัฒนา จํากัด ไปแล้ว
*** มาแล้วแต่จะทันเวลาหรือไม่ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เติมเงินให้กับรายย่อยเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อันแรกสินเชื่อค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ธนาคารออมสิน และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท ให้กับประชาชนที่มีอาชีพอิสระหรือเกษตรกรรายย่อย อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) ไม่เกิน 0.10% ต่อเดือน โดยขยายระยะเวลาปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยออกไปเป็นไม่เกิน 12 เดือน จากเดิม 6 เดือน ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส. กำหนด พร้อมทั้งขยายระยะเวลากู้ออกไปเป็นไม่เกิน 3 ปี จากเดิม 2 ปี 6 เดือน ตามด้วยโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ SMEs สำหรับธุรกิจการท่องเที่ยว วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำท่องเที่ยวและ Supply Chain โดยใช้ที่ดินว่างเปล่า ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินเป็นหลักประกัน และไม่ต้องผ่านการตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร วงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 70% ของราคาประเมินที่ดินของทางราชการ สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท ระยะเวลากู้ 3 ปี ดอกเบี้ย 0.10% ต่อปี ในปีแรก 0.99% ต่อปีในปีที่ 2 และ 5.99% ต่อปีในปีที่ 3
*** ปิดท้ายด้วยการอนุโมทนาบุญกับทุกท่าน แฟนฐานเศรษฐกิจทุกแพลตฟอร์ม ที่สนับสนุนกอร์ฟฐานแชริตี้ 2020 เมื่อปลายปีก่อน รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายได้นำบริจาค ไปยังโรงพยาบาลสงฆ์เป็นที่เรียบร้อย ที่ล่าช้าด้วยเหตุต้องเลื่อนกันหลายเวลา จากสถานการณ์โควิด ทางรพ.สงฆ์ยังคงรับการบริจาคทั้งจตุปัจจัยและสิ่งของเพื่อนำไปบำรุงรักษาพระสงฆ์อาพาธ “โยภิกฺขเว มํ อุปฏฐฺเหยฺย โสคิลานํ อุปฏฐฺเหยฺย ผู้ใดปราถนาอุปปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงอุปปัฏฐากภิกษุอาพาธเถิด” ขอกุศลผลบุญถึงพร้อมมายังท่านทั้งหลายด้วยเถิด สาธุ ***