นายพิพัฒน์ วรสิทธิดำรง นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค "ป.พิพัฒน์" เมื่อวันที่ 15 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ว่า มาประชุมเพื่อเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นกรรมการกลางในคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล (ก.ท.) หรือ ก.กลางเทศบาล โดยมีนายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานในการประชุม
ในสัดส่วนของฝ่ายท้องถิ่น ผมได้เสนอชื่อ ท่านสรณะ เทพเนาว์ นายกสมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย อดีตปลัดเทศบาลเมืองมหาสารคาม และยังเป็นอดีตผู้แทนปลัดเทศบาลในก.ท. 4 สมัย เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ส่วนท่านปลัดศักดิพงศ์และปลัดสุนทร ได้เสนอท่านสาโรช คัชมาตย์ อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และพี่พรศรี กิจธรรม อดีตปลัดเทศบาลนครนนทบุรี เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ (ฝั่งท้องถิ่นเสนอได้ 3 คน ฝั่งกรมฯเสนออีก 3 คน) ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาพลิกโผเพราะหารือกันแล้ว
ในการประชุมครั้งนี้ ผมได้เรียนถามท่านอธิบดี 2 เรื่อง คือ เรื่องผู้ติด ว.58 ว่า เมื่อไหร่ฝ่ายเลขาฯ จะมีหนังสือออกไป ท่านอธิบดีมอบท่านผอ.ชนินทร์ (ชนินทร์ ราชมณี ผู้อำนวยการส่วนประสานการถ่ายโอนบุคลากร และมาตรฐานตำแหน่ง สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) ชี้แจงว่า กำลังตรวจสอบรายชื่อทั้งหมด โดยจะทยอยมีหนังสือแจ้งเป็นการเฉพาะราย ไปยังจังหวัดที่เจ้าตัวจะไปบรรจุแต่งตั้ง และส่งให้เจ้าตัวทราบโดยตรง จะไม่ทำหนังสือแจ้งเวียน โดยหลักการ ผู้ที่ระยะเวลาในการครองตำแหน่งครบแล้ว ก็ให้บรรจุแต่งตั้งได้เลย คนที่ระยะเวลาครองตำแหน่งยังไม่ครบก็ให้ไปรักษาการก่อนเมื่อครบแล้วค่อยแต่งตั้ง ส่วนคนที่สละสิทธิ์ไปก่อนหน้านี้ก็จะทยอยเรียกเมื่อมีตำแหน่งว่าง ก็ขอให้ใจเย็นๆ คนที่เลือกที่ลงแล้วได้บรรจุแต่งตั้งแน่นอน
เรื่องที่ 2 การเลื่อน 2 ขั้นเป็นกรณีพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติงานโควิด ผอ.ชนินทร์ ชี้แจงว่า ก.พ.ได้ตอบข้อหารือมาแล้ว และอนุกรรมการทั้ง 3 ก.ได้ประชุมเห็นชอบให้เลื่อนขั้นสำหรับผู้ปฏิบัติงานโควิดทุกตำแหน่งมิได้จำกัดเฉพาะคนที่อยู่กองสาธารณสุขเท่านั้น แต่ต้องเข้าเงื่อนไข 2 ข้อ คือ มีคำสั่งของอปท. หรือศบค.ระดับจังหวัด หรือ อำเภอ และ 2. ต้องปฏิบัติงานจริง ซึ่งต้องมีหลักฐานว่าได้ทำงานจริงๆ
โดยท่านอธิบดีได้แสดงความห่วงใยว่า การพิจารณาให้หรือไม่ให้ จะอยู่ที่อปท.แต่ละแห่งจะเป็นผู้พิจารณา ดังนั้น ขอให้ยึดถือตามข้อเท็จจริง หากไม่ได้ทำจริงอาจมีการร้องเรียนภายหลัง และอาจนำไปสู่ปัญหาเรื่องการทุจริตภายหลังได้ จึงขอให้อปท.ต้องมีความเที่ยงตรงด้วย ทั้งนี้ จะได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอ ก.กลางทั้ง 3 ก.พิจารณาในการประชุมเดือน ก.พ.นี้อีกครั้งหนึ่ง
อนึ่ง วันนี้มีปลัดเทศบาลระดับต้นจากจังหวัดจันทบุรี มาร้องทุกข์ต่อท่านอธิบดีว่า ถูกผอ.กลุ่มงานบุคคลสถ.จ.จันทบุรี บังคับให้ปรับองค์กรให้ปลัดเทศบาลสามัญต้องเป็นระดับกลางทุกแห่ง ทำให้พวกตนได้รับความเดือดร้อนเพราะถูกบังคับให้ลดตำแหน่งลงมาเป็นรองปลัดเทศบาล เพราะยังคัดเลือกในระดับกลางไม่ได้ ทั้งๆ ที่จังหวัดอื่นๆ กลับไม่มีการบีบบังคับเช่นที่จังหวัดจันทบุรี โดยท่านอธิบดีและผอ.ชนินทร์ได้ยืนยันในที่ประชุมว่า หลักเกณฑ์การปรับโครงสร้างปลัดเทศบาลจากระดับต้นเป็นกลาง มิได้บังคับให้ต้องปรับ เพียงแต่กำหนดเงื่อนไขไว้ว่ากรณีจะปรับค่าใช้จ่ายด้านการบริหารงานบุคคลจะต้องไม่เกินร้อยละ 35 แค่นั้น
ฉะนั้น จึงมิใช่มาตรการบังคับที่จะต้องปรับให้ปลัดต้องเป็นระดับกลางแต่อย่างใด ผอ.กลุ่มงาน บุคคลฯสถ.จ.จันทบุรีจึงน่าจะเข้าใจคลาดเคลื่อน ผมจึงร้องขอให้ท่านผอ.ชนินทร์ ได้มีหนังสือซักซ้อมแนวทางปฏิบัติเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งท่านก็รับปาก ส่วนความเดือดร้อนที่จันทบุรี ทางผู้ร้องได้มีการหารือแนวทางแก้ไขกับทางท่านผอ.ชนินทร์ และผอ.ปิยะแล้ว