ผบ.ตร.เยี่ยมให้กำลังใจตำรวจบาดเจ็บลั่นไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ

14 ก.พ. 2564 | 10:19 น.

ผบ.ตร.เยี่ยมให้กำลังใจตำรวจได้รับบาดเจ็บ จากเหตุควบคุมม็อบ 13 กุมภาฯ ยันตำรวจไม่เคยเริ่มก่อน-ไม่ทำเกินกว่าเหตุ แนะให้ดูที่เจตนาและการกระทำของกลุ่มที่ก่อความวุ่นวายตั้งแต่ต้นจนจบ

วันนี้ (14 ก.พ.64) ที่ชั้น 11 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ได้ตรวจเยี่ยมและให้ขวัญกำลังใจข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ จากการดูแลความเรียบร้อยในการชุมนุมฯ บริเวณด้านหน้าศาลหลักเมือง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งมีตำรวจได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวน 23 นาย ทั้งหมดเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ

แพทย์ผู้ทำการรักษา เปิดเผยว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกปาด้วยของแข็งและของเหลวคล้ายน้ำมัน ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความห่วงใยพร้อมสั่งการให้ดูแลด้านสวัสดิการ และทำการรักษาข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บให้เป็นอย่างดี

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า จากการรับรายงานจากนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ มีตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีก 19 คน อีก 4 คน ออกไปแล้ว จากการพูดคุยสอบถามมีบางคนได้รับสารเคมี สี ไม่ทราบว่าเป็นอะไรหากโดนกระจกตาก็จะมีปัญหาอาจถึงสาหัส ส่วนบางคนโดนอิฐ ของแข็ง ขว้างทำร้าย แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่มีอุปกรณ์ป้องกันตัว ถึงแม้จะป้องกันก็ยังเกิดอาการบาดเจ็บ คงต้องพักรักษาตัวกันอยู่ที่นี่จนร่างกายจะดีขึ้น

“ทุกครั้งในการปฏิบัติเราพยายามใช้อุปกรณ์ในการป้องกันเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นได้ แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่ตรงนี้ ต้องฝากผู้ที่ก่อเหตุรุนแรง อย่างเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ถ้ามันจบก็ไม่มีเรื่อง เท่าที่ติดตามสถานการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมขอเจ้าหน้าที่ว่าจะส่งผู้แทนไปไหว้ศาลหลักเมือง แล้วจะยุติการชุมนุม แล้วมีการจัดอำนวยความสะดวกให้ มีการประกาศยุติการชุมนุมไปแล้ว ผมก็เชื่อว่าผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งก็ทราบอยู่แล้วข้อเท็จจริงเป็นอะไร แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งก่อเหตุความรุนแรงขึ้นมา แล้วผลก็ออกมาตามที่พวกเราเห็น มีการทำสงครามข่าวสารโจมตีกันไปๆ มาๆ”

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ขอเรียนว่าจะดูเรื่องนี้ก็ต้องดูตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะเหตุและผลมันก็เกิดเป็นเหตุเป็นผลกันมา ถ้ายุติก็จบ มันก็จบไปแล้วมันก็ไม่มีอะไร พอมาก่อเหตุกันอย่างนี้เจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้มาตรการในการหยุดการก่อเหตุร้าย ต้องจับกุม ก็ไปตีข่าวอะไรกันก็ต้องว่าไป

“ต้องฝากพี่น้องประชาชนด้วยว่ามันมีเหตุมีผลต่อเนื่องกันมา ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะไปตีกันมันไม่ใช่ ถ้าจะมีการชุมนุมอย่างแรกท่านต้องรู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันเขาห้ามจัดกิจกรรมในพื้นที่ควบคุมสูงสุด เจ้าหน้าที่ก็ประกาศห้าม แต่ว่าเราก็ไม่ถึงขนาดจะใช้กำลังจับกันตรงนั้น ก็บอกไปแล้วว่าอย่าถึงขนาดทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งเมื่อวานถ้าเลิก แล้วคุณยุติอย่างที่คุยกันมันก็จบไปแล้ว แต่ไม่จบอย่างนั้น”

ผบ.ตร.ยืนยันว่า ข้อเท็จจริงต้องดูตั้งแต่ต้นจนจบอย่าดูเป็นท่อนๆ แล้วไปทำสงครามข่าวสารโจมตีกัน มีนำภาพไปแล้วบอกว่าคนนี้โดนกระสุนยางยิง ซึ่งมันไม่ใช่ เมื่อวานไม่มีใครใช้เลยกระสุนยาง ไม่มีใครใช้แก๊สน้ำตา เรามีของ มีอุปกรณ์ แต่เราก็ไม่ได้ใช้ เราใช้เท่าที่จำเป็น เราจับกุมผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่ไปเขียนว่า ทำร้ายประชาชน ถ้ามันไม่มีเหตุใครจะไปจับ จะให้ยืนเฉยๆ เอาอิฐตัวหนอนแล้วทุ่มกันแบบนั้นหรืออย่างไร คนก็มีหลายฝั่ง ประชาชนอีกฝั่งหนึ่งก็มองว่าตำรวจอ่อนแอ ไม่ทำอะไร ปล่อยให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นมา

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ฝากประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่จะชุมนุมทั้งหลาย ให้ไปคุยกันให้รู้เรื่องด้วย เราไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุแบบนี้ ขอให้เข้าใจ แล้วคนที่ทำผิดทุกคนต้องถูกดำเนินคดี แล้วถ้าใครเห็นว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินเลยก็มาแจ้งความร้องทุกข์

“ผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับไป เราก็มีระบบการตรวจร่างกายทุกคนอยู่แล้ว ตรวจร่างกายต่อหน้าแพทย์และทนายความ ใครที่เห็นว่าไม่ถูกไม่ชอบก็มาว่ากัน ก็ว่าไปตามกฎหมาย และไม่ใช่คดีแรกที่ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดแบบนี้ ใครที่ทำก็มีความผิดสะสมไปเรื่อยๆ ก็ไปว่ากันในชั้นศาลว่าจะว่าอย่างไร”

เมื่อถามถึงแฮชแท็กร้อนในทวิตเตอร์ขณะนี้ ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า อยากบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้ก่อเหตุจะไปอ้างว่าทำหน้าที่อะไรก็เป็นเรื่องที่ท่านอ้าง มันอยู่ที่ว่าใครก่อเหตุ ท่านก่อเหตุหรือไม่ หรือจะอ้างว่าทำหน้าที่อะไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าท่านไม่ได้ก่อเหตุท่านก็ไม่ผิด ถ้าก่อเหตุท่านก็ผิด หากเป็นความผิดซึ่งหน้าที่เขาจับ ก็ต้องมีพยานหลักฐานก็ว่ากันมา ซึ่งเป็นรายละเอียดทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องแจ้งข้อหาอยู่แล้ว ผู้ที่ถูกกล่าวหาต้องรู้รายละเอียดข้อเท็จจริงที่เจ้าหน้าที่แจ้ง

เมื่อถามถึงไม่ใช่แพทย์จริงแต่การกระทำของเจ้าหน้าที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า “ผมยืนยันว่าเขาจับผู้ก่อเหตุ แล้วถามว่าการเข้าทำการจับกุมเกินกว่าเหตุหรือไม่ ก็ต้องดูกันไปว่าทำไมถึงทำแบบนั้น เพราะอะไรมันมีที่มาที่ไป ถ้าท่านว่าเกินกว่าเหตุก็มาว่ากันว่าเกินอย่างไร”

ส่วนหลังจากนี้จะวางมาตรการหรือกำชับการปฏิบัติอย่างไรเพราะในวันที่ 20 ก.พ.นี้จะมีการนัดรวมตัวอีกครั้ง ผบ.ตร. กล่าวว่า จริงๆ เราก็ปรับไปตามสถานการณ์อยู่แล้ว ก็จัดกำลัง และความพร้อมของเราให้พร้อม แต่อย่าลืมนะ เราไม่เคยเป็นคนที่เริ่มต้น ไม่เคย ก็ฝากไปด้วยว่า ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องนี้ก็ขอให้ช่วยกัน เราทำข้างเดียวไม่ได้หรอก อยากให้เกิดความเรียบร้อยก็ต้องช่วยกันให้เรียบร้อย