‘เทสลา’ปลุกเชื่อมั่นบิตคอยน์

15 ก.พ. 2564 | 20:00 น.

กูรูวงการซื้อขายเงินดิจิทัล มอง “เทสลา อิงค์” ลงทุนซื้อบิตคอยน์ 4.5 หมื่นล้านบาท จุดเปลี่ย การเงินการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลโลก เชื่อช่วยนักลงทุนเชื่อมั่น ยอมรับเงินดิจิทัล หนุนราคาร้อนแรงต่อเนื่อง มีโอกาสทะยานแตะ 6-9 ล้านบาทต่อ 1 บิตคอยน์

นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2564 ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นราว 50% แล้ว นับว่าเป็นหนึ่งในคริปโตที่มาแรงที่สุดตั้งแต่เปิดศักราช ราคาบิตคอยน์ ทะยานเข้าทำนิวไฮหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา บิตคอยน์ทำนิวไฮ อีกครั้ง โดยราคาทะยาน แตะ 44,795.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนจะลดลงมาอยู่ที่ราว 44,207.95 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ราว 1.326 ล้านบาท ภายหลังจากบริษัทเทสลา อิงค์ แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯว่า ได้ซื้อ “Bitcoin” (บิทคอยน์) มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์   หรือ กว่า 4.5 หมื่นล้านบาท และเตรียมจะเปิดรับการชำระเงินด้วยบิตคอยน์สำหรับซื้อ “ผลิตภัณฑ์” (products) ของบริษัท อย่างไรก็ตามวงการเงินสกุลดิจิทัล มองว่าขณะนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการปรับฐานเงินสกุลบิตคอยน์เพียงเท่านั้น ความร้อนแรงของบิตคอยน์ ที่ได้รับการยอมรับจากสถาบันและนักลงทุนมากขึ้น มีโอกาสทะยานขึ้นไป 200,000-300,000 ดอลลาห์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 6-9 ล้านบาทต่อหนึ่งบิตคอยน์

โดยนายปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ให้บริการเว็บเทรด Satang Pro เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าการขยับตัวของราคาบิตคอยน์ 44,207.95 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ราว 1.326 ล้านบาท ภายหลังจากบริษัทเทสลา อิงค์ ซื้อ “Bitcoin” (บิทคอยน์) มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท นั้นเป็นเพียงจุดเริ่มของการปรับฐานราคาบิตคอยน์เท่านั้น ทั้งนี้มองว่าตราบใดที่เศรษฐกิจชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อสูง ราคาสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะสินทรัพย์ดิจิทัลหลักอย่างบิตคอยน์ยังมีโอกาสราคาปรับตัวขึ้นอีก

อย่างไรก็ตามบิตคอยน์ต้องผ่านจุดที่ราคา 49,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ราว 1.47 ล้านบาทไปให้ได้ก่อน ซึ่งมีโอกาสที่ราคาบิตคอยน์จะทะยานขึ้นไปสูงถึง 200,000-300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 6-9 ล้านบาท ต่อ 1 บิตคอยน์

“การเข้ามาลงทุน “Bitcoin” (บิทคอยน์) มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ หรือ 4.5 ประมาณหมื่นล้านบาท ของ“อีลอน มัสก์” มหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของโลก เจ้าของธุรกิจไฮเทคอย่าง “เทสลา อิงค์” ยังส่งอานิสงค์ให้เหรียญดิจิทัล หรือ คริปโต้ อื่นๆ มีราคาขยับเพิ่มขึ้นด้วย”

นายปรมินทร์ กล่าวต่อไปว่าท่ามกลางความร้อนแรงของบิตคอยน์ และคริปโตอื่นๆนั้นทำให้นักลงทุนหน้าใหม่แห่เข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามมองว่าไม่ควรรีบร้อนลงทุน ควรรอให้ราคาปรับฐานลงมาให้นิ่ง และทำการศึกษาข้อมูลให้ดี ก่อนเข้าไปลงทุนโดยการลงทุนจะต้องเลือก ช่วงเวลาที่เหมาะสมซึ่งการลงทุนควรนำเงินเย็นมาลงทุนไม่ควรนำเงินกู้ หรือเงินที่ใช้ในชีวิตประจำวันมาลงทุน และต้องยอมรับความเสี่ยงการลงทุนได้

“เรากำลังอยู่ในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง และปีนี้บิตคอยน์และเงินคริปโตจะถูกยอมรับโดยคนทั่วโลก เป็น Mass Adoption มากขึ้นและอยากฝากว่านักลงทุนมือใหม่อย่าหลงเชื่อคนที่มาชวนลงทุนแบบตรวจสอบไม่ได้”

ด้านนายพลากร ยอดชมญาณ ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาโตชิ จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มทางการเงินรูปแบบใหม่ในการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ภายใต้แบรนด์ “คูแลป” (KULAP) กล่าวว่า การประกาศเข้าการเข้ามาลงทุนในบิตคอยน์ มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท ของ“อีลอน มัสก์” มหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของโลก เจ้าของเทสลา อิงค์ นั้นกำลังเปลี่ยนทัศนคติของนักลงทุน ที่มีต่อสินทรัพย์ดิจิทัลไปในทางบวก โดยมีความเชื่อมั่น และยอมรับในเงินสกุลดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งบริษัทอย่างเทสล่า อิงค์ มีอิทธิพลอย่างมาต่อความคิดของผู้คน เนื่องจากเป็นบริษัทเทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยผลิตทั้งรถยนต์ไร้คนขับ ไฮเปอร์รูฟ และส่งมนุษย์ไปดาวอังคาร

ทั้งนี้จากการที่สินทรัพย์ดิจิทัล หรือบิตคอยน์ เป็นที่ยอมรับมากขึ้น ก็มีโอกาสที่ราคาบิตคอยน์จะขยับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามไม่สามารถระบุได้ว่าราคาจะร้อนแรงไปถึงจุดไหน

ที่มา : หน้า 2 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,653 วันที่ 14 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564