อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท "แข็งค่า"มาปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 29.87 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 29.92 บาทต่อดอลลาร์ฯ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมิน4ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม " ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/63 -ทางการเมืองของไทย -สถานการณ์โควิด 19 ทั่วโลก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ"
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาททยอย “แข็งค่า”เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ โดยเงินดอลลาร์ฯ ยังขาดแรงหนุนท่ามกลางสัญญาณการยืนดอกเบี้ยต่ำและคงวงเงิน QE ของเฟดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 4,344.38 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิพันธบัตรไทยเล็กน้อยที่ 708 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนจากข้อมูลของธนาคาร 10 แห่งสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 โดยธปท. อยู่ที่ -0.84 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ 3.11 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า คาดไว้ที่ 29.80-30.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/63 และปัจจัยทางการเมืองของไทย สถานการณ์โควิด 19 ทั่วโลก และประเด็นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค. นอกจากนี้ตลาดอาจรอติดตามบันทึกการประชุมเฟด (เมื่อ 26-27 ม.ค.) จีดีพีไตรมาส 4/63 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนก.พ. ของสหรัฐฯ ยูโรโซน และอังกฤษด้วยเช่นกัน