แห่ซื้อทองรอเก็งกำไร

09 ก.พ. 2564 | 09:21 น.

ร้านทองคึกคัก ประชาชนแห่ซื้อทองช่วงตรุษจีนและเก็งกำไร หลังราคาปรับลดลง ชี้ยังเป็นแนวโน้มขาลง แนะซื้อสะสมระยะยาว รอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐออกมาชัดเจน

รายงานข่าวจากสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำตั้งแต่ต้นปี 2564 ปรับตัวลดลงมากที่สุดบาทละ 1,200 บาท จากราคาทองคำแท่งปิดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 อยู่ที่บาทละ 26,850 บาท เมื่อเทียบราคาทองคำแท่งปิดลดลงต่ำสุดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 อยู่ที่บาทละ 25,650 บาท ต่ำสุดในรอบ 3 เดือนและราคาเคยปรับขึ้นไปสูงสุดที่บาทละ 27,650 เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ก่อนที่จะปรับเพิ่มขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บาทละ 350 บาท โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อที่บาทละ 26,050 บาท ขายออกที่บาทละ26,150 บาท ส่วนทองคำรูปพรรณ รับซื้อที่บาทละ 25,574.92 บาท ขายออกที่บาทละ 26,650 บาท 

 

นายกฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุกฯ (MTS GOLD Group) เปิดเผยว่า บรรยากาศการซื้อทองคำในช่วงนี้คึกคักขึ้น มาจากราคาทองคำที่ปรับลดลง หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดี ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็งกำไร ส่วนกำลังซื้อทองรูปพรรณเพื่อเป็นของขวัญในช่วงตรุษจีนมีไม่มากนักเหมือนกับช่วง 3-4 ปีก่อนเพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ แนวโน้มราคาทองคำยังคงต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะช่วยสนับสนุนราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นในระยะสั้น โดยแนะนำนักลงทุนให้ทยอยซื้อสะสมในช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงเฉลี่ยที่บาทละ 25,300-25,500 บาท เพื่อไว้เก็งกำไรในระยะยาว 

 

นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร ฮั่วเซ่งเฮง ผู้ประกอบธุรกิจทองคำ กล่าวว่า บรรยากาศการเข้ามาซื้อทองคำได้รับปัจจัยบวกจากราคาทองคำที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้มีแรงซื้อกลับคืนเข้ามาในตลาด เพื่อหวังเก็งกำไรในระยะยาวอีกครั้ง ส่วนการซื้อทองรูปพรรณ เพื่อสวมใส่พบว่ายังมีแรงซื้อเข้ามา แต่หากเทียบกับช่วงในอดีตไม่ได้สูงมากนัก เนื่องจากภาพรวมของกำลังซื้อยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 และเศรษฐกิจที่ซบเซา