ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 237 จุด ขานรับความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นศก.

08 ก.พ. 2564 | 23:56 น.

ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 237.52 จุด ขานรับความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) ขานรับความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน
          

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,385.76 จุด เพิ่มขึ้น 237.52 จุด หรือ + 0.76% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,915.59 จุด เพิ่มขึ้น 28.76 จุด หรือ +0.74% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,987.64 จุด เพิ่มขึ้น 131.35 จุด หรือ +0.95%
          

นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่ารัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ได้ในไม่ช้านี้ หลังจากพรรคเดโมแครตประสบความสำเร็จในการผลักดันให้สภาคองเกรสให้ความเห็นชอบต่อแนวทางการพิจารณาอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแบบ fast track โดยใช้แนวทางการจัดทำงบประมาณที่เรียกว่า budget reconciliation ซึ่งจะช่วยปูทางให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของปธน.ไบเดนสามารถผ่านสภาคองเกรสโดยไม่จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน
          

หลังจากสภาคองเกรสให้การอนุมัติแนวทางดังกล่าวได้ไม่นาน นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐก็ได้ออกมาแสดงความเห็นในเชิงบวกว่า การจ้างงานในสหรัฐจะกลับมาขยายตัวได้อย่างเต็มศักยภาพอีกครั้งในปี 2565 หากสภาคองเกรสให้การอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.โจ ไบเดน          

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนในสหรัฐ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า นับจนถึงขณะนี้รัฐบาลได้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับประชาชนแล้ว 32,780,860 โดส
          

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 4.17% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นเชฟรอน ดีดขึ้น 2.54% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทะยานขึ้น 5.58% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 5.34%
          

หุ้นเทสลา บวก 1.31% หลังจากเทสลาได้ส่งหนังสือแจ้งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) หรือก.ล.ต.สหรัฐว่า ทางบริษัทได้เข้าซื้อบิตคอยน์คิดเป็นมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการกระจายการลงทุน และเพื่อให้เงินสดของบริษัทสร้างผลตอบแทนสูงสุด
          

ข่าวการข่าวซื้อบิตคอยน์ของเทสลาส่งผลให้ราคาบิตคอยน์พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 44,000 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ และยังเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนทะยานขึ้นด้วย รวมถึงหุ้น Riot Blockchain พุ่งขึ้น 40.25% หุ้น Marathon Patent พุ่งขึ้น 42.41% และหุ้น Long Blockchain Corp พุ่งขึ้น 19.60%
          

หุ้นแอปเปิล ขยับขึ้น 0.11% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนในระหว่างวัน หลังจากบริษัทฮุนได มอเตอร์ของเกาหลีใต้เปิดเผยว่าทางบริษัทยังไม่ได้เจรจากับบริษัทแอปเปิลเกี่ยวกับการร่วมมือผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคำยืนยันดังกล่าวสวนทางกับรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่า ฮุนไดกำลังเจรจากับแอปเปิลเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้า          

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยในบรรดาบริษัทจำนวน 286 แห่งในดัชนี S&P 500 ที่ได้เสร็จสิ้นการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 4/63 มีจำนวน 83.6% ที่รายงานตัวเลขรายได้และกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
          

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนธ.ค., อัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน