"ทิพานัน"ตอกโฆษกเพื่อไทย คิดไม่เป็น เกาะกระแส"เราชนะ"

06 ก.พ. 2564 | 05:31 น.

"ทิพานัน" ตอกโฆษกเพื่อไทยคิดไม่เป็น คิดช้าตามกระแส ยันรัฐคิดโครงการ "เราชนะ" รอบคอบ ตรงจุด รวดเร็ว ช่วยผู้ตกหล่นทุกกลุ่ม

 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ

วันที่ 6   ก.พ. 2564 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาวิจารณ์โครงการ "เราชนะ" ว่ารัฐบาลคิดไม่รอบคอบกรณีกำหนดสิทธิคนเข้าถึงจากฐานรายได้ปี 62 ซึ่งโควิดยังไม่ระบาดว่า เกณฑ์คุณสมบัติผู้ที่ได้รับสิทธิในโครงการเราชนะได้ประกาศมาประมาณครึ่งเดือนแล้ว การที่โฆษกพรรคเพื่อไทยเพิ่งออกมาวิจารณ์นั้นก็เป็นประเด็นที่ทางคณะรัฐมนตรีได้คำนึงถึงและเตรียมมาตรการรองรับแล้ว ดังนั้นจึงไม่ทราบว่าอาการคิดช้าของ น.ส.อรุณี นั้นเป็นเพราะไม่ได้คิดวิเคราะห์เอง แค่ไปจำคำพูดคนอื่นมาแล้วเอามาเกาะกระแสให้มีพื้นที่ข่าวหรือไม่ 

ในการกำหนดมาตรการเยียวยาที่รอบคอบ ตรงจุด รวดเร็วและทั่วถึง ในเบื้องต้นต้องทราบข้อมูลที่จำเป็นที่แน่นอน ได้แก่ จำนวนผู้ได้รับผลกระทบจากกลุ่มเป้าหมาย วงเงินที่จะเยียวยา เพื่อพิจารณาให้สอดคล้องกับวงเงินงบประมาณที่จะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของโครงการที่ต้องการสนับสนุนวงเงินช่วยเหลือค่าครองชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนนั้น รัฐต้องใช้ฐานข้อมูลของปีภาษี 2562 (เพิ่งครบกำหนดการยื่นเมื่อ 31 ส.ค. 63) เพราะเป็นข้อมูลที่ครบถ้วนแน่นอนที่สุด ไม่สามารถใช้ฐานภาษีปี 2563 ได้เพราะจะสิ้นสุดเมื่อ 30 มิ.ย. 64

"ส่วนที่ น.ส.อรุณีเสนอให้ใช้ข้อมูลคนตกงานจากกระทรวงแรงงานหรือกลุ่มผู้ประกันตนนั้น ก็เป็นข้อเสนอที่ยิ่งทำให้ซ้ำซ้อน เป็นความคิดที่ไม่รอบคอบ กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบกลุ่มนี้ก็เป็นคนละฐานข้อมูล ผู้ที่ตกงานจะได้รับการดูแลจากกองทุนประกันสังคมอยู่แล้ว และกลุ่มผู้ประกันตน ม.33 ก็จะได้รับการเยียวยาตามโครงการ “เรารักกัน ม.33” แทน ดังนั้นจึงขอยืนยันว่ารัฐบาลจะให้การช่วยเหลือครอบคลุมทุกกลุ่มกว่า 40 ล้านคนโดย กลุ่มที่ 1 ผู้บัตรสวัสดิการฯ 14 ล้านคน กลุ่มที่ 2 คือ ผู้ลงทะเบียนคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ที่มีรายได้น้อย ผู้มีอาชีพอิสระ 17 ล้านคน กลุ่มที่ 3 แรงงาน ม.33 “เรารักกัน” 9 ล้านคน ส่วนกลุ่มที่ 4 เป็นกลุ่มตกหล่น สามารถยื่นขอทบทวนสิทธิตั้งแต่ 8 ก.พ. ได้ รัฐบาลก็ได้เตรียมการรองรับเบื้องต้นเอาไว้แล้ว" น.ส. ทิพานัน กล่าว


 สำหรับที่การลงทะเบียนของผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนของกลุ่มที่เข้าเกณฑ์การได้รับสิทธิ์โครงการ “เราชนะ” นั้น หาก น.ส.อรุณี จะใช้เวลาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสักนิด ก็จะทราบว่าตั้งแต่ 21 ม.ค. ที่ ครม. มีมติเห็นชอบโครงการ “เราชนะ” นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้ประสานงานกับธนาคารของรัฐที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียน โดยสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 15 ก.พ. เป็นต้นไป ดังนั้นที่ น.ส.อรุณีกล่าวหาว่ารัฐบาลปล่อยให้คนที่เดือดร้อนที่รัฐมองไม่เห็นไม่ได้รับเงินเยียวแม้แต่บาทเดียวเพราะไม่มีสมาร์ทโฟน จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งกรณีของงคุณลุงที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจึงปีนเสาไฟเพราะเข้าใจว่าจะไม่ได้รับสิทธินั้นก็เกิดจากความเข้าใจผิด คิดว่าไม่ได้สิทธิ์ ซึ่งอาจได้รับข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนแล้วออกมาสื่อสารแบบที่ น.ส.อรุณีกำลังทำอยู่

จะเห็นว่าประชาชนได้รับความสะดวกในการลงทะเบียนรับสิทธิ์ครั้งนี้ เพราะรัฐได้นำฐานข้อมูลเดิมที่เคยมีแล้วมาปรับใช้เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากที่สุด  และรัฐยังมีมาตรการคัดกรอง ไม่ให้เกิดปัญหากรณีข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจได้รับสิทธิซ้ำซ้อน โดยใช้การกดยืนยันเข้าร่วมโครงการเราชนะในแอปเป๋าตังด้วยตนเอง ซึ่งจะทำให้ตรวจสอบได้และหากตรวจสอบพบในภายหลัง ก็จะมีการเรียกเงินคืนจากข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ