ทุนไทยในเมียนมาผวา อเมริกา-ยุโรปบอยคอตสินค้า

05 ก.พ. 2564 | 11:00 น.

ฐานผลิตไทยในเมียนมาผวายุโรป-อเมริกาบอยคอตสินค้าจากเมียนมาหลังทำรัฐประหาร ประธานหอการค้าไทยแนะผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้เร็วเพื่อรับการเปลี่ยนแปลง

 

 

ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ระบุมูลค่าการลงทุนโดยตรง(FDI)ของไทยในเมียนมาที่ได้รับอนุญาตส่งเสริมสะสมตั้งแต่ปีงบประมาณ 2016/2017 จนถึงปีงบประมาณ 2020/2021 (ข้อมูล ณ พ.ย.2563) ระบุไทยเป็นนักลงทุนอันดับ 6 ในเมียนมา มีโครงการที่ได้รับการส่งเสริมรวม 47 โครงการ มูลค่าการลงทุน 911.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ประมาณ 27,360 ล้านบาท) แต่จากการทำรัฐประหารในเมียนมาเวลานี้ โดยรัฐบาลที่มาจากทหารประกาศจะอยู่ในอำนาจหนึ่งปีครึ่งนับจากนี้ ส่งผลภาคการค้าการลงทุนของไทยในเมียนมายังมีความกังวลในหลายเรื่อง

 

นายปณิธาน ปวโรฬารวิทยาที่ปรึกษาและอดีตประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มีหลายเรื่องที่ต้องจับตาและติดตาม เช่น จากที่สหรัฐอเมริกาโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศจะทบทวนกฎหมายการคว่ำบาตร และจะใช้มาตรการลงโทษเมียนมาที่มีการทำรัฐประหาร รวมถึงท่าทีของฝั่งยุโรปที่คาดจะมีมาตรการกดดันเมียนมาตาม อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการของไทยที่เข้าไปลงทุนในเมียนมาเพื่อใช้เป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังอเมริกา และยุโรป อาจถูกบอยคอตสินค้า

 

ปณิธาน ปวโรฬาร

                     ปณิธาน ปวโรฬารวิทยา

 

นอกจากนี้ยังต้องจับตาว่า รัฐบาลใหม่จะมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการค้า การลงทุนอะไรหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ทุกคนสับสนไม่รู้จะคุยหรือติดต่อกับใครที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลเมียนมา หากภาพมีความชัดเจนแล้วภาคธุรกิจเอกชนกับภาครัฐของเมียนมาอาจต้องทำความรู้จักกันใหม่เพื่อสร้างความมั่นใจในการทำธุรกิจ

 

ด้านนายกลินท์  สารสิน  ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าทุกคนต่างจับจ้องว่านโนบายของรัฐบาลเมียนมาชุดใหม่นี้จะเป็นอย่างไร จะอยู่นานแค่ไหน  คาดหวังเร็ว ๆ นี้ รัฐบาลเมียนจะเชิญภาคธุรกิจไปให้ความคิดเห็น ตอนนี้ยังเร็วเกินไปว่าจะกระทบแค่ไหน อย่างไรก็ดีหากมีอะไรเปลี่ยนแปลงภาคธุรกิจไทยที่อยู่ในเมียนมาก็ต้องปรับตัวให้เร็ว เพราะกฎกติกาเปลี่ยนตลอดเวลาอยู่แล้ว 

 

หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,651 วันที่ 7 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564