ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ระบุมูลค่าการลงทุนโดยตรง(FDI)ของไทยในเมียนมาที่ได้รับอนุญาตส่งเสริมสะสมตั้งแต่ปีงบประมาณ 2016/2017 จนถึงปีงบประมาณ 2020/2021 (ข้อมูล ณ พ.ย.2563) ระบุไทยเป็นนักลงทุนอันดับ 6 ในเมียนมา มีโครงการที่ได้รับการส่งเสริมรวม 47 โครงการ มูลค่าการลงทุน 911.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ประมาณ 27,360 ล้านบาท) แต่จากการทำรัฐประหารในเมียนมาเวลานี้ โดยรัฐบาลที่มาจากทหารประกาศจะอยู่ในอำนาจหนึ่งปีครึ่งนับจากนี้ ส่งผลภาคการค้าการลงทุนของไทยในเมียนมายังมีความกังวลในหลายเรื่อง
นายปณิธาน ปวโรฬารวิทยาที่ปรึกษาและอดีตประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มีหลายเรื่องที่ต้องจับตาและติดตาม เช่น จากที่สหรัฐอเมริกาโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศจะทบทวนกฎหมายการคว่ำบาตร และจะใช้มาตรการลงโทษเมียนมาที่มีการทำรัฐประหาร รวมถึงท่าทีของฝั่งยุโรปที่คาดจะมีมาตรการกดดันเมียนมาตาม อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการของไทยที่เข้าไปลงทุนในเมียนมาเพื่อใช้เป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังอเมริกา และยุโรป อาจถูกบอยคอตสินค้า
ปณิธาน ปวโรฬารวิทยา
นอกจากนี้ยังต้องจับตาว่า รัฐบาลใหม่จะมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการค้า การลงทุนอะไรหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ทุกคนสับสนไม่รู้จะคุยหรือติดต่อกับใครที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลเมียนมา หากภาพมีความชัดเจนแล้วภาคธุรกิจเอกชนกับภาครัฐของเมียนมาอาจต้องทำความรู้จักกันใหม่เพื่อสร้างความมั่นใจในการทำธุรกิจ
ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าทุกคนต่างจับจ้องว่านโนบายของรัฐบาลเมียนมาชุดใหม่นี้จะเป็นอย่างไร จะอยู่นานแค่ไหน คาดหวังเร็ว ๆ นี้ รัฐบาลเมียนจะเชิญภาคธุรกิจไปให้ความคิดเห็น ตอนนี้ยังเร็วเกินไปว่าจะกระทบแค่ไหน อย่างไรก็ดีหากมีอะไรเปลี่ยนแปลงภาคธุรกิจไทยที่อยู่ในเมียนมาก็ต้องปรับตัวให้เร็ว เพราะกฎกติกาเปลี่ยนตลอดเวลาอยู่แล้ว
หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,651 วันที่ 7 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมียนมา‘ปฎิวัติ’ พ่อค้าผ่องถ่ายจ๊าด ตุน‘บาท-ดอลลาร์’
คณะรัฐประหารเมียนมา ส่งสัญญาณอาจจัดเลือกตั้ง คืนอำนาจให้ประชาชนกลางปี 65
เมียนมาสั่งปิดกั้นการสื่อสาร-ระงับการเข้าถึงเฟซบุ๊กแล้ว อ้างมีการบิดเบือนข่าว-ส่งข่าวลวง
เมียนมาแต่งตั้งผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ พร้อมปฏิเสธข่าวลวงหึ่งยกเลิกธนบัตร
กองทัพเมียนมาปล่อยตัว 400 คน แต่ยังกัก “ซูจี” พร้อมตั้ง“สภาบริหารแห่งรัฐ”