“แรมโบ้”ฉะ“เพื่อไทย”อย่าดีแต่จ้อรายวัน จี้หยุดตำหนิรัฐบาล

01 ก.พ. 2564 | 07:44 น.

“แรมโบ้”ฉะ “เพื่อไทย”อย่าดีแต่จ้อรายวันจนปากเหม็น หากไม่คิดช่วยทำอะไรขอให้หยุดพูดหรือตำหนินายกฯ และรัฐบาล พร้อมเตือนประชาชนจะเบื่อหน่ายหากไม่ทำประโยชน์เพื่อชาติเลย 

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และ นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย แถลงรัฐบาลบริหารด้านเศษฐกิจล้มเหลว ทำให้ราคา “พริก-ลอตเตอรี่”พุ่งเกินเหตุ ว่า ต้องเข้าใจว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ที่ผ่านมานายกฯได้ทำงานอย่างเต็มที่ในแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างระมัดระวังที่สุด โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีการระบาดเชื้อโควิด ได้ตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหลัง COVID-19 และหามาตรการต่างๆ นำมาช่วยเหลือประชาชนในการบรรเทาความเดือดร้อน แม้กระทั่งการควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ไม่ให้มีราคาแพง เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนเช่นกัน

 

ขณะเดียวกันได้ประชุมหารือร่วมกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ให้เข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชีวิต สุขภาพ และ เศรษฐกิจของประเทศ ที่อาจจะยิ่งหนักหนาสาหัสในระยะยาว  อีกทั้งยังเริ่มประกาศคลายมาตรการต่างๆ ให้พี่น้องประชาชนพอที่จะสามารถใช้ชีวิตประจำวันทำมาหากินกันได้ เพื่อที่จะไม่ให้กระทบเศรษฐกิจรายได้และปากท้องพี่น้องประชาชนมากนัก

 

ส่วนปัญหาราคาพริกแพงนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าเกิดจากมีความต้องการใช้ภายในประเทศเพิ่ม และผลของสภาพภูมิอากาศทำให้กระทบต่อการผลิตในแต่ละปีของไทย ทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม รวมทั้งสถานการณ์โควิดยังส่งผลกระทบต่อการขนส่งทำให้ต้นทุนสูงขึ้น  ดังนั้นขอให้พรรคเพื่อไทยเข้าใจสถานการณ์ด้วย


สำหรับปัญหาลอตเตอรี่มีราคาแพง คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยที่ผ่านมาได้หาแนวทางแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคา มีมติเปิดให้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ซื้อจองลอตเตอรี่เพิ่มเติมอีก 1 แสนคน เพื่อช่วยคนตกงาน ให้มีสิทธิซื้อลอตเตอรี่กับสำนักงานฯได้โดยตรงในราคาใบละ 70.40 บาท นำไปขายใบละ 80 บาท ทำให้ผู้ค้าสลากฯตัวจริงเข้ามาอยู่ในระบบไม่ต้องไปพึ่งพาการซื้อสลากฯซึ่งถูกเก็งกำไรจากพ่อค้าคนกลาง

 


“นายยุทธพงศ์ และ นายจิรพงษ์ ก็น่าจะรู้ว่าปัญหาเศรษฐกิจเกิดขึ้นทั่วโลกจากการระบาดเชื้อโควิด ซึ่งนายกฯและรัฐบาลก็กำลังพยายามแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากที่สุด ดังนั้นหากพรรคเพื่อไทยไม่คิดจะช่วยอะไรก็ขอให้หยุดพูดหรือตำหนินายกฯและรัฐบาลเพราะไม่ได้ทำให้อะไรให้ดีขึ้น การพูดจ้อรายวันจนปากเหม็นยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยตกต่ำลงจนในที่สุดจะพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งในคราวหน้าอย่างย่อยยับ”


นอกจากนี้ ตนเองยังไม่เห็นว่ารองหัวหน้าพรรค หรื อโฆษกพรรค วันๆ ได้พูดอะไรหรือทำอะไรที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชนบ้าง มีแต่ออกมาแถลงข่าวตำหนิคนอื่นเรื่องนั้นเรื่องนี้ทุกวันโดยไม่ย้อนดูตัวเอง ซึ่งหากทำแบบนี้ไปเรื่อยๆขอบอกว่า ทุกวันนี้ประชาชนเบื่อหน่ายพรรคเพื่อไทยมากได้ เพราะคนในพรรควันๆดีแต่ออกมาพูดทำลายคนอื่น หัวหน้าพรรคผู้ใหญ่ในพรรคก็ไม่เคยออกมาเตือนหรือห้ามปรามพวกปากจ้อรายวันเลย


 “ตัวนายยุทธพงศ์ เองก็ยังแก้ปัญหาตัวเองในพรรคไม่ได้ มีข่าวทะเลาะกับส.ส.คนนั้นคนนี้ในพรรค ถึงขั้นท้าชกท้าต่อย มีข่าวว่าไม่ได้ตำแหน่งในสภาฯ สมดังใจตัวเองก็ออกมาอาละวาด ถามหน่อยว่าในพรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ เข้าได้กี่คน ไม่มีใครอยากคบ มีแต่คนเบื่อหน่าย เพราะนิสัยส่วนตัวเอาแต่ใจ มีส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ส่งข่าวผมมาว่าคนๆ นี้คบยาก เพราะนิสัยส่วนตัวไม่ค่อยเอาใคร มีแต่ความคิดที่ไม่สร้างสรรค์ คอยแต่ซ้ำเติมประเทศชาติประชาชนเช่นนี้ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ชาวมหาสารคามอาจจะไม่สนับสนุนคนประเภทนี้ให้มาเป็นผู้แทนประชาชนอีกต่อไปเป็นแน่"